ยอดดับจากการปีนเขาเอเวอเรสต์จ่อสูงเป็นประวัติการณ์ เนปาลออกใบอนุญาตพุ่ง

ฤดูปีนเขาครั้งล่าสุดที่ภูเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในฤดูปีนเขาที่อันตรายที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยมีมา และก่อให้เกิดการตั้งคำถามว่าเนปาลออกใบอนุญาตมากเกินไปเพื่อหวังดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวให้มากที่สุดหรือไม่

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) ว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักปีนเขา 11 ราย จากหลายประเทศ รวมถึง ออสเตรเลีย จีน และมาเลเซีย เสียชีวิตขณะพยายามพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ และไกด์ท้องถิ่นที่นำทางปีนเขาซึ่งเรียกกันว่า เชอร์ปา เสียชีวิตไปอีก 5 คน หลังจากที่รัฐบาลเนปาลออกใบอนุญาตให้กับนักปีนเขามากเป็นประวัติการณ์ถึง 478 ราย

ในขณะที่ฤดูปีนเขากำลังจะสิ้นสุดลงนั้น มีนักปีนเขาอย่างน้อย 2 คน ที่ยังคงสูญหาย และจำนวนผู้เสียชีวิตอาจแซงหน้าสถิติในปี 2562 ซึ่งภาพบรรดานักปีนเขาที่แออัดเรียงรายบนแนวไหล่เขาถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก

ข้อมูลจากฮิมาลายัน ดาตาเบส (Himalayan Database) องค์กรไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐที่ติดตามการปีนเขาเปิดเผยว่า ฤดูปีนเขาเอเวอเรสต์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือเมื่อปี 2557 ซึ่งมีผู้ช่วยท้องถิ่นเสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่เกิดหิมะถล่มอย่างรุนแรง

ใบอนุญาตปีนเขาเอเวอเรสต์สำหรับชาวต่างชาติ มีค่าธรรมเนียม 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้สร้างเม็ดเงินมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับเศรษฐกิจเนปาลในปีนี้ ขณะที่รัฐบาลคัดค้านการเปลี่ยนแปลงที่จะจำกัดจำนวนการออกใบอนุญาตดังกล่าว

นายอลัน อาร์เน็ตต์ นักปีนเขาและบล็อกเกอร์ที่เคยปีนเขาเอเวอเรสต์เมื่อปี 2554 กล่าวว่า ผู้คนจำนวนมากต่างถูกเย้ายวนและมีความหลงใหลในการปีนเขาเอเวอเรสต์ และไม่มีใครที่นั่นเอ่ยปากปฏิเสธ เพราะพวกเขาจ่ายเงินไปแล้ว โดยบรรดาผู้ประกอบการที่ให้บริการปีนเขาและเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้มาตรการด้านความปลอดภัยที่มากเพียงพอ เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสูญเสียผลกำไร ซึ่งเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจที่เรียบง่าย

ด้านนายยุพราช คาทิวาดา อธิบดีกรมการท่องเที่ยวของเนปาล กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า รัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจังกับการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น เนปาลมีกฎว่านักปีนเขาต้องมีอายุอย่างน้อย 16 ปี และพวกเขาต้องแนบใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าสภาพร่างกายมีความพร้อมในการปีนเขา

“อัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูงในฤดูนี้ เนื่องจากสภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ” นายคาทิวาดากล่าว “ไม่มีเหตุผลอื่น เรากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะลดความเสี่ยง แต่ลำพังการปีนเขาก็เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงในตัวเองอยู่แล้ว”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top