เงินบาทเปิด 35.19 อ่อนค่าในรอบ 3 เดือนสอดคล้องภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 35.00-35.25

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.19 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วานนี้ที่ระดับ 35.03 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทอ่อนค่าเทียบท้ายตลาด เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยขึ้นดอกเบี้ย 0.50% จาก 4.5% ไปสู่ 5.0% ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า

“ธนาคารอังกฤษเซอร์ไพรส์ตลาด ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาด หลังจากที่ประกาศขึ้นดอกเบี้ย ก็ดึงดอกเบี้ยโลกขึ้น ทำให้ ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินส่วนใหญ่ เงินบาทเช้านี้เปิด 35.19 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าอ่อนค่าสุดในรอบ 15 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน”

นัก บริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.00 – 35.25 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยที่ ต้องติดตามระหว่างวัน คือ Flow นำเข้าทองคำ โดยเมื่อคืนนี้ทองคำร่วงลงประมาณ 20 ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (22 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 2.03323% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 2.27794%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 142.87 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 141.95 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0947 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1000 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 34.921 บาท/ดอลลาร์

– “พาณิชย์” กางยอดธุรกิจตั้งใหม่ พ.ค.2566 กว่า 7,437 ราย ทุนจดทะเบียนพุ่ง 2.84 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 10 ปี ชูธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยวมาแรง คาดทั้งปียอดแตะ 7.5-7.8 หมื่นราย ด้าน “สมาคมโรงแรมไทย” หนุนเพิ่มไฟลต์บิน-ปลดล็อกคิว และเงื่อนไขขอวีซ่า หวังช่วยดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้แตะ 25 ล้านคน

– สภาธุรกิจไทย-เมียนมา แนะรัฐบาลไทยอยู่นิ่งๆ รอช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล พร้อมหารือทูตพาณิชย์ประจำย่างกุ้ง เพิ่มความ เชื่อมั่นการลงทุน สร้างความเข้าใจบริบท การเมืองในเมียนมา ชี้บริษัทไทยเข้าไปลงทุนในเมียนมาลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่มีโควิด

– “เงินบาท” อ่อนค่าแตะระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ ทำสถิติอ่อนค่าสุดรอบ 3 เดือน ทั้งยังอ่อนสุดในภูมิภาคของวานนี้ เชื่อ นักลงทุนกังวลปัจจัยการเมืองประเด็นการตั้งรัฐบาลล่าช้า ขณะ “ฟิทช์ เรทติ้ง” ส่อหั่นเครดิตบริษัทไทยจำนวนหนึ่ง

– ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 7-2 ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับ ตั้งแต่ปี 2551 ในการประชุมเมื่อคืนนี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25%

– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก อยู่ที่ระดับ 264,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 64

– ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่คาดการณ์ไว้ พร้อมเสริมว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คิดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอยู่ในกรอบ 5.50-5.75% หลังเสร็จสิ้นการแถลงวันที่ 2 ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ นักลงทุนให้น้ำหนัก 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค.

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี(22 มิ.ย.) ขานรับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังคงส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการแถลงต่อ สภาคองเกรสวันที่ 2

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี (22 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งพากันปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางอังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์ และตุรกี นอกจากนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังส่งสัญญาณใน ระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสวันที่ 2 ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ เอสแอนด์พี โกลบอล รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการ ขั้นต้นเดือนมิ.ย.

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top