หุ้นไทยปิดเช้าบวก 0.58 จุด ดีดแรงรับมติศาลรธน.ก่อนเจอขายทำกำไรลดเสี่ยงโหวตนายกฯ

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,535.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด (+0.04%) มูลค่าซื้อขายราว 30,094 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งผันผวนตามสถานการณ์ ในช่วงท้ายดีดขึ้นไปแรงตอบรับศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิฉัยสภานภาพนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรณีถือหุ้นสื่อไอทีวี และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ทันที หวังพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทน ก่อนที่ดัชนีทิ้งตัวลงมาจากแรงเทขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปติดแนวต้าน 1,545 จุด แนวโน้มช่วงบ่ายคาดผันผวนจับตาโหวตนายกฯ ให้แนวรับ 1,525 จุด และแนวต้าน 1,550-1,560 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,535.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด (+0.04%) มูลค่าซื้อขายราว 30,094 ล้านบาท

การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ดีก่อนโดนเทขายทำกำไร ทำระดับสูงสุด 1,545.70 จุด และต่ำสุด 1,529.25 จุด

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าที่ผ่านมาผันผวน โดยปรับตัวขึ้นไปได้กว่า 10 จุด ก่อนย่อตัวลงรับแรงขายทำกำไรเมื่อติดแนวต้านสำคัญที่ 1,545 จุด ก่อนเข้าขั้นตอนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนตามแรงขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน

ดัชนี SET ดีดขึ้นมาแรงตอบรับประเด็นมติศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัยสถานภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรณีเป็นผู้ถือหุ้นสื่อคือ บมจ.ไอทีวี และสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสเสนอแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีแทน

อย่างไรก็ตาม แม้นายพิธาจะถูกให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ สส. แต่ยังสามารถเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่อาจเห็น สส.และสว.โหวตเห็นชอบลดลง และมีโอกาสสูงที่จะสอบไม่ผ่านอีกรอบ

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดยังผันผวนอัพไซด์จำกัดมากขึ้น ให้แนวรับไว้ที่ 1,525 จุด และแนวต้าน 1,550-1,560 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,350.72 ล้านบาท ปิดที่ 9.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,232.56 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,142.33 ล้านบาท ปิดที่ 28.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,097.33 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,007.07 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top