ตลาดหุ้นไทย ก.ค.ยังดีดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทำต่างชาติขายสุทธิแต่นักลงทุนไทยยังซื้อต่อเนื่อง

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในเดือน ก.ค.66 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) รายงานว่าภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกฟื้นตัวจากการระบาดของ COVID-19 ในอัตราที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มขยายตัวลดลงมาที่ 4.6% ในปีนี้ และ 4.9% ในปีหน้า ทั้งนี้ ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยไปที่ 3.5% จากที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.3% ในเดือน เม.ย. และหากพิจารณาจากอัตราส่วน Forward PE ของ SET Index ค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ผู้ลงทุนบุคคลและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 6 เดือนต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในการประชุมรอบล่าสุดนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปลดลงต่อเนื่องไปแตะที่ระดับ 3% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยจะอยู่ในระดับสูงแต่มีแนวโน้มลดลง โดยอัตราว่างงานที่ยังไม่ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

อีกทั้งเศรษฐกิจจีนหลังการเปิดประเทศขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์มาก หากพิจารณาจากตัวเลขภาคการผลิต และส่งออกของจีนในช่วงที่ผ่านมาหดตัว ทำให้ธนาคารกลางจีนต้องลดดอกเบี้ยนโยบายลง รวมถึงทางการจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นฟื้นฟูและเพิ่มการบริโภคในภาคยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการ ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อบริษัทจดทะเบียนไทยในอนาคต

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

– ณ สิ้นเดือน ก.ค.66 SET Index ปิดที่ 1,556.06 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า

– ในเดือน ก.ค.66 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 65 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่มการเงิน

– ในเดือน ก.ค.66 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 46,002 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 25.3% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน 7 เดือนแรกปี 66 อยู่ที่ 56,873 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 6 โดยในเดือน ก.ค.66 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 12,558 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ในส่วนของผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศแม้ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลดลงจากช่วงต้นปี แต่จำนวน Active accounts ในช่วงหลัง COVID-19 Pandemic เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อน COVID-19 Pandemic

– ในเดือน ก.ค.66 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PHG)

– Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ก.ค.66 อยู่ที่ระดับ 17.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.3 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 21.3 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า

– อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน ก.ค.66 อยู่ที่ระดับ 3.12% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.20%

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือน ก.ค.66 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 474,850 สัญญา ลดลง 22.0% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures และในช่วง 7 เดือนแรกของปี 66 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 546,687 สัญญา ลดลง 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top