นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดแถลงข่าว “แฉเพื่อชาติ EP.2 วันพิพากษาประชาชนได้รู้ความจริง” ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินย่านทองหล่อ เพื่อนำไปสร้างเป็นคอนโดหรูที่สุดในประเทศไทย โดยใช้กระบวนการปั่น (ที่ดิน) บวม (เงิน) และตัดตอน โดยมีการตั้งบริษัทนอมินี มีแม่บ้าน – รปภ. เป็นผู้ถือหุ้น และยื่นขอกู้เงินกับบริษัทลูกของบมจ.แสนสิริ (SIRI) 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายให้กับเจ้าของเดิมจำนวน 465 ล้านบาท รวมทุนจดทะเบียน
“การให้บริษัทลูกโกงผู้ถือหุ้น แล้วที่เหลือ 435 ล้านบาท หายไปไหน มันคือ การปั่นที่ บวมเงิน และตัดตอน ถ้าเจ้านายคุณทักษิณซุกหุ้น แต่นี้เรียกว่า โกงผู้ถือหุ้นเลย เป็นตัวแทนนายกฯทักษิณได้สบายมาก”นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า วิธีการบริษัทเหล่านี้ซื้อในราคาไม่เป็นจริง ซื้อในราคาที่แพงขึ้น ซึ่งถือเป็นการซ่อนเร้น ปิดปัง และมองว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่มีความสามารถเป็นนายกรัฐมนตรี และการกระทำที่น่าสงสัยแบบนี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
“วันนี้อยากเตือนให้นายเศรษฐาถอย และพรรคเพื่อไทยยังมีผู้มีความรู้ความสามารถอีกมาก ส่วนพรรคจะไปนำเสนอใคร ผมไม่ขอยุ่ง” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาพูดเรื่องบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีเรื่องการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเสนอบุคคลอื่นได้ และตนในฐานะที่เป็นประชาชนที่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ พร้อมยืนยันว่า ตนมีหลักฐานทั้งหมด พร้อมสู้จนถึงศาลฏีกา ตอนนี้มีคนบางคนรับเงินมา 20 ล้านบาทเพื่อมาโจมตีตน และมีผู้ใหญ่พยายามโทรมาให้ตนเพื่อขอให้งดพูดเรื่องนี้เพื่อแลกกับการไม่พูดเรื่องส่วนตัว แต่ตนมองว่า คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์
นายชูวิทย์ กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะไปยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบธรรมภิบาลของ บมจ.แสนสิริ และจะนำข้อมูลไปยื่นให้สมาชิกวุฒิสภาช่วยตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐา โดยตนจะเดินทางไปที่รัฐสภา ยื่นหนังสือผ่านประธานรัฐสภา และเชื่อว่าข้อมูลชุดนี้จะถูกขยายผลแน่นอน นอกจากนี้ตนยังมีข้อมูลการซื้อขายที่ดินย่านธุรกิจที่มีราคาแพงอีกหลายแปลงที่จะเปิดเผยในอนาคตต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)
Tags: SIRI, การเมือง, ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, พรรคเพื่อไทย, เศรษฐา ทวีสิน, แคนดิเดทนายก, แสนสิริ