ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (16 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร และนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ระดับสูง
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 455.29 จุด ลดลง 0.28 จุด หรือ -0.06%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,260.25 จุด ลดลง 7.45 จุด หรือ -0.10%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,789.45 จุด เพิ่มขึ้น 22.17 จุด หรือ +0.14% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,356.88 จุด ลดลง 32.76 จุด หรือ -0.44%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 1 เดือนในระหว่างวัน และหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง 0.7% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ซึ่งทำธุรกิจกับจีนนั้นร่วงลงเป็นวันที่ 5 และร่วงลง 1.7% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ หุ้นแอลวีเอ็มเอชและหุ้นเคอริง ซึ่งพึ่งพาอุปสงค์จากผู้บริโภคจีน ร่วงลง 0.2% และ 0.4% ตามลำดับ
นักลงทุนวิตกว่า วิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่บริษัททรัสต์ชั้นนำของจีนผิดนัดชำระหนี้ และราคาบ้านในจีนลดลง
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้นไบเออร์ของเยอรมนี ร่วง 1.7% หลังบริษัทบีเรนเบิร์กปรับลดคำแนะนำลงทุนหุ้นไบเออร์จาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”
ข้อมูลจากรีฟินิทิฟ (Refinitiv) บ่งชี้ว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทยุโรปนั้นคาดว่าจะลดลง 4.6% จากปีก่อน ซึ่งต่ำลงเล็กน้อยจากที่คาดไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าอาจลดลง 4.8%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป