นักวิเคราะห์เตือนจีนเสี่ยงเผชิญเงินฝืด กระทบความเชื่อมั่นทั่วโลก

นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเตือนว่า ความเสี่ยงที่จีนจะเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินฝืดเพิ่มขึ้นนั้น ได้สร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก และคาดว่าความเสี่ยงดังกล่าวจะรุนแรงมากขึ้นในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า

ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ถดถอยลงของจีนได้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือนก.ค.หลายรายการที่ออกมาต่ำกว่าคาด และการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ได้ระงับการเปิดเผยอัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวเนื่องจากตัวเลขดังกล่าวพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ยอดการปล่อยสินเชื่อของจีนในเดือนก.ค.ทรุดตัวลงเช่นกัน เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์การกู้ยืมจากภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน รวมทั้งปัญหาเรื้อรังในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยล่าสุดบริษัทคันทรี การ์เดน ซึ่งเคยเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของจีน มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ และเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่เผชิญปัญหาหนี้สินรุมเร้าได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กของสหรัฐเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลาย

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ของจีนปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี และสวนทางกับหลายประเทศในฝั่งตะวันตกที่เผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ

“แม้ว่าความเชื่อมโยงกันระหว่างจีนและเศรษฐกิจทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากจีนพยายามที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุปสงค์ภายในประเทศ แต่จีนยังคงเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ด้วยเหตุนี้ ความอ่อนแอของเศรษฐกิจและการลดลงของตัวเลขเงินเฟ้อในประเทศจีน จึงมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบลุกลามไปทั่วโลก” ทิฟฟานี วิลดิง นักเศรษฐศาสตร์และกรรมการผู้จัดการบริษัทพิมโคกล่าว

วิลดิงยังกล่าวด้วยว่า ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ในฝั่งตะวันตกเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 และเงินเฟ้อในประเทศเหล่านี้เร่งตัวขึ้นท่ามกลางภาวะอุปทานตึงตัวและอุปสงค์ที่พุ่งขึ้น แต่เศรษฐกิจจีนกลับไม่ฟื้นตัวในลักษณะเช่นนั้นนับตั้งแต่รัฐบาลตัดสินใจยุติมาตรการโควิดเป็นศูนย์

สกายลาร์ มอนต์โกเมอรี โคนิง นักยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจมหภาคจากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด คาดการณ์ว่า ตลาดจะยังคงผิดหวังต่อเศรษฐกิจจีนต่อไปอีก เนื่องจากมาตรการทางการคลังของรัฐบาลจีนยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจและกอบกู้ความเชื่อมั่นของตลาดได้ พร้อมกับกล่าวว่า “ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของจีนได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศและการขยายตัวทั่วโลก”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top