“ปดิพัทธ์” ปัดลาออกรองปธ.สภาฯ ชี้งานนิติบัญญัติมีความเป็นเอกเทศ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่งว่า การจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานนิติบัญญัติ เป็นเอกเทศต่อกัน ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติ ตำแหน่งประธานสภา รองประธานคนที่ 1 และรองประธานคนที่ 2 มาจากการเลือกตั้ง และการลงมติของสส. ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ เรียบร้อยแล้ว จึงไม่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล และไม่มีรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายฉบับใด ที่บังคับให้ต้องลาออกหรือย้าย หากพรรคต้องเป็นฝ่ายค้าน

กรณีที่พรรคต้องไปเป็นฝ่ายค้าน จะส่งผลกระทบหรือไม่นั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ผู้ที่เป็นประธานและรองประธานจะต้องวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับการประชุมทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ดังนั้น สามารถทำหน้าที่ได้ไม่ว่าจะอยู่สังกัดพรรคไหน

ส่วนกระแสข่าวที่พรรคก้าวไกลจะยกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเก็บตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ไว้ นั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ต้องให้ทางพรรคหารือกันเอง เพราะตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจา และไม่ได้อยู่ในกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ หากฝ่ายรัฐบาลชัดเจนแล้ว ฝ่ายค้านก็ต้องมีความชัดเจน ว่าจะดำเนินพันธกิจของฝ่ายค้านอย่างไร และตนก็รอการตัดสินใจของฝ่ายค้าน

ส่วนกรณีที่มองว่า ตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนกฎหมายของพรรคนั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนเคยแถลงการณ์วิสัยทัศน์ไว้แล้ว ตำแหน่งรองประธานสภา ไม่ใช่การเข้ามาทำหน้าที่ให้กับพรรคใดพรรคหนึ่ง ตนต้องการทำให้สภา Smart Open โปร่งใส และมีสมรรถนะสูง ดังนั้น การที่มีตนอยู่ในตำแหน่งนี้ จะมีประโยชน์ต่อประเทศ และสภาแน่นอน

“ถ้าจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ เพราะทุกตำแหน่งมีความสำคัญ ผู้นำฝ่ายค้านก็มีความสำคัญมาก รองประธานสภาฯ ก็มีความสำคัญ ดังนั้น มองว่าควรทำตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน ส่วนจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง 2 ตำแหน่งนี้หรือไม่ ตนคิดว่าทุกฝ่ายจะต้องชั่งน้ำหนักหมด ไม่ว่าจะเลือกอย่างไร ก็คงจะต้องมีผลลัพธ์และความรับผิดชอบที่ต่างกัน ทุกอย่างเป็นไปตามที่พรรคจะคุยกัน” นายปดิพัทธ์ กล่าว

พร้อมระบุว่า ไม่ว่าพรรคจะมีมติอย่างไร ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมเอกสารยื่นลาออกจากตำแหน่ง ตอนนี้เตรียมแต่เรื่องการทำงาน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top