นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.36 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.22 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเย็นวาน ซึ่งในช่วงนี้ตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงนโยบายอัตรา ดอกเบี้ยสูงและนานขึ้น จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ส่งผลให้สกุลเงินในภูมิภาคปรับตัวอ่อนค่า และเงินบาทก็เคลื่อน ไหวสอดคล้องกับภูมิภาค
ขณะนี้ปัจจัยในประเทศวันนี้ ตลาดรอดูการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค.66 ของกระทรวงพาณิชย์ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ยังไม่มีอะไรใหม่ เพราะวันนี้ตลาดในฝั่งสหรัฐฯ ปิดทำการชั่วคราวเนื่องในวันแรงงาน
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.15-35.40 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 146.57 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 146.40 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0790 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0795 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.176 บาท/ดอลลาร์
– สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค.66
– “เศรษฐา” ลั่นรัฐบาลเพื่อไทย เทหมดหน้าตัก รับข้อจำกัดด้านงบประมาณ คาดใช้ได้ต้นปีหน้า ยันดิจิทัลวอลเล็ตจ่าย 10,000 บาท ม้วนเดียวจบ ด้าน “พีระพันธุ์” รับลูกนายกฯ จ่อลดค่าไฟ-น้ำมัน ขณะที่ สำนักงบฯ พร้อมรับการใช้งบไปพลาง 1.8 ล้าน ล้านหลังจัดทำงบล่าช้า 8 เดือน วางเงื่อนไขห้ามไม่รับบุคลากรใหม่ เดินทางต่างประเทศต้องทำความตกลงกับสำนักงบฯ
– “แบงก์” แห่ออกเงินฝากทะลัก รับโค้งท้ายปี “ทีทีบี” ชี้ สถานการณ์แย่งเงินฝากเดือด ทั้งตลาดหุ้นกู้ ตลาดประกัน และ สถาบันการเงิน รองรับการปล่อยสินเชื่อสะพัดปลายปี เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีปลายปี “ซีไอเอ็มบีไทย” เตรียมออกโปรดักต์เงินฝากออมทรัพย์ เพิ่มเจาะลูกค้ารายย่อยบนดิจิทัล ให้ดอกเบี้ยสูง 2.88% เชื่อหนุนลูกค้าออมเงินเพิ่ม “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ชี้ ช่วง 8เดือน ยอดออกแคม เปญเงินฝากของระบบแบงก์พุ่ง 147โปรดักต์ มีแคมเปญที่ครบกำหนด 66 แคมเปญ โดยมี แคมเปญเงินฝากออกใหม่มากกว่าครบกำหนด 81 แคมเปญ ทั้งหมดเป็นเงินฝากระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี
– ตลาดเงินและตลาดทองคำสหรัฐฯ ปิดทำการวันที่ 4 ก.ย.เนื่องในวันแรงงาน
– มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2566 แต่ได้ปรับลดคาดการณ์ เศรษฐกิจจีนในปี 2567 โดยระบุว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยนั้น มีน้อยลง แต่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความ ท้าทายมากขึ้น
– China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้แข็ง ค่าขึ้น 0.0003 หยวน แตะระดับ 7.1783 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวน ได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
– ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้น และแข็งแกร่งกว่าในไตรมาส 1 ที่ขยายตัวเพียง 0.3% แม้ ว่าการส่งออกชะลอตัวลงก็ตาม
– รัฐบาลญี่ปุ่นจะตั้งกองทุนฉุกเฉินวงเงิน 2.07 หมื่นล้านเยน (141 ล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกที่ได้รับ ผลกระทบจากการที่จีนประกาศระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น โดยอ้างเหตุผลจากการที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล
– ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ในช่วงต้นเดือนก.ย. โดยเศรษฐกิจที่อ่อนแอของ เยอรมนียังคงเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งยูโรโซน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 66)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท