ผลผลิตน้ำมันจากภูมิภาคที่ผลิตหินดินดานของสหรัฐจ่อลดอีกในต.ค.

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยในรายงานประสิทธิภาพการขุดเจาะรายเดือนเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐจากภูมิภาคที่ผลิตหินดินดานชั้นนำนั้น มีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนต.ค.สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2566

EIA คาดว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐจะลดลงเหลือ 9.393 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนต.ค. จาก 9.433 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. หลังผลผลิตแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 9.476 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.

รายงานระบุว่า การผลิตที่ลดลงประมาณ 41,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค.นั้น จะถือเป็นการลดลงรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565

ผลผลิตน้ำมันดิบในลุ่มน้ำเพอร์เมียนในเท็กซัสและนิวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งหินน้ำมันใหญ่ที่สุดของสหรัฐนั้นคาดว่า จะลดลงเกือบ 26,000 บาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 5.773 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.

ส่วนการผลิตน้ำมันดิบในภูมิภาคเซาท์เท็กซัสอีเกิลฟอร์ด มีแนวโน้มที่จะลดลง 17,000 บาร์เรลต่อวันเหลือ 1.109 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565

อย่างไรก็ตาม การผลิตน้ำมันในภูมิภาคแบกแคนของนอร์ธ ดาโคตาและมอนแทนาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 1.227 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top