นางศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 ก.ย. 66 มีสมาชิก กบข.ที่จะเกษียณอายุราชการ จำนวน 21,223 ราย และ กบข. ได้เตรียมเงินสำหรับจ่ายคืนให้กับสมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพและทำเรื่องขอรับเงินคืน ประมาณ 27,000 ล้านบาท
โดย กบข. ได้คาดการณ์ยอดเงินที่สมาชิกจะได้รับเฉลี่ยประมาณ 1.3 ล้านบาทต่อราย ซึ่งจะสามารถดำเนินการจ่ายเงินคืนสมาชิกภายใน 7 วันทำการ หลังจากที่ กบข. ได้รับเอกสารที่ครบถ้วนถูกต้อง และประกาศเกษียณอายุราชการมีผลบังคับใช้
นางศรีกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาชิก กบข. ที่จะเกษียณอายุราชการ หากยังไม่มีแผนใช้เงินก้อน สามารถพิจารณาใช้บริการออมต่อกับ กบข. ได้ เพื่อให้ กบข. บริหารเงินลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้อย่างต่อเนื่อง โดยจากสถิติมีจำนวนอดีตสมาชิกสนใจใช้บริการออมต่อเพิ่มขึ้นทุกปี ข้อมูล ณ 31 ส.ค. 66 มีอดีตสมาชิก กบข. ที่ยังใช้บริการออมต่อจำนวน 6,230 ราย และมีการออมต่อนานสุดอยู่ที่ 15 ปี
สำหรับสมาชิก กบข. ที่สนใจบริการออมต่อ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ 2 ช่องทาง คือ 1) แจ้งความประสงค์ทางระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล (Digital Pension) ของกรมบัญชีกลาง และ 2) แจ้งความประสงค์ผ่านหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมกรอกแบบ กบข. รง 008/1/2555
ทั้งนี้ บริการออมต่อมี 4 รูปแบบ คือ
1. ออมต่อทั้งจำนวน
2. ทยอยรับเงินเป็นงวด ๆ อาทิ รายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือรายปี
3. ขอรับเงินบางส่วน ที่เหลือให้ กบข. บริหารต่อ
4. ขอรับเงินบางส่วน ที่เหลือทยอยรับเงินเป็นงวด ๆ
โดยสมาชิกสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความจำเป็นและรูปแบบที่เหมาะสมตามความต้องการของสมาชิก พร้อมทั้งสามารถแจ้งเปลี่ยนรูปแบบการออมต่อได้ปีละ 2 ครั้ง ผ่าน My GPF Application เมนู “ออมต่อ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 66)
