น้ำมัน WTI ปิดลบ $1.03 หลังสื่อตีข่าวสหรัฐเตรียมคลายคว่ำบาตรเวเนซุเอลา

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (16 ต.ค.) หลังจากสื่อรายงานว่าสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนมองว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในระยะสั้น

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 89.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐและเวเนซุเอลาเตรียมประกาศข้อตกลงในวันอังคาร (17 ต.ค.) เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว หลังจากที่รัฐบาลเวเนซุเอลาลงนามในสัญญาที่จะมีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ในปีหน้า ซึ่งจะมีตัวแทนจากต่างชาติเข้าสังเกตการณ์

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากการคาดการณ์ที่ว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะไม่ลุกลามออกไป ท่ามกลางความพยายามทางการทูตจากหลายฝ่ายในการผ่อนคลายความขัดแย้งดังกล่าว

ทั้งนี้ นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้พบปะกับบรรดาผู้นำชาติอาหรับเพื่อหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส และความพยายามเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนในฉนวนกาซา ขณะที่นายยูริ ยูชาคอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดีเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำของอิสราเอลและชาติอาหรับในวันนี้ เพื่อสกัดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ไม่ให้ลุกลามขยายวงออกไป

นอกจากนี้ มีรายงานว่าสหรัฐกำลังเจรจาอย่างลับๆ กับอิหร่าน และเตือนอิหร่านว่าอย่าเข้าแทรกแซงสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งจะทำให้ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการในวันพุธ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top