ETL พร้อมลงสนามเทรด SET วันแรก 1 พ.ย. โบรกฯให้เป้า 2.30-2.62 บาท

บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ (ETL) เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมวดธุรกิจขนส่งและโล จิสติกส์ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 171,865,440 หุ้น ในราคา 1.68 บาทต่อหุ้น

ETL เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่มีธุรกิจหลัก คือ การให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Transportation Carrier) อย่างครบวงจร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปยังประเทศต่างๆ ทั้งในแถบทวีปเอเชียและทวีปยุโรป ภายใต้การบูรณาการรูปแบบการขนส่งที่หลากหลาย ให้สามารถบริการขนส่งข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจ รวมถึงมุ่งเน้นต่อการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในแต่ละประเทศ

โดยมีบริการ 2 รูปแบบ ได้แก่ (1.) การขนส่งสินค้าแบบเต็มตู้ (Full Truck Load: FTL) การให้บริการขนส่งสินค้าแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ หรือเหมาทั้งตู้คอนเทนเนอร์ โดยสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นของผู้ส่งหรือลูกค้าเพียงรายเดียว ให้บริการแบบ Door-to-Door และ (2.) การขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (Less than Truck Load: LTL) การให้บริการขนส่งสินค้าที่สินค้าในตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นของลูกค้ามากกว่า 1 รายแบ่งใช้พื้นที่ร่วมกัน

บล.ไอร่า ประเมินราคาเป้าหมายที่เหมาะสมของ ETL ที่ 2.62 บาทต่อหุ้น อ้างอิงจากการคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66-68 ที่คาดว่าจะทำได้ 62 ล้านบาท, 85 ล้านบาท, 110 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 24% ต่อปี จากแรงหนุนดีมานด์การขนส่งระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว, จีนเปิดประเทศมากขึ้น, แนวโน้มค่าระวางเรือขยับขึ้นเล็กน้อย ทำให้ผู้ส่งออกบางรายเปลี่ยนใช้การขนส่งทางถนน/ทางบกข้ามแดนแทน อีกทั้งแผนขยายไปกลุ่มสินค้า Cold Chain มากขึ้นซึ่งมีมาร์จิ้นสูง ประกอบกับเป็นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพผ่านมาตรการบริหารจัดการ Backhaul จึงประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 2.62 บาท อ้างอิง P/E 19X, Discount เล็กน้อยจาก P/E กลุ่มที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน 24X

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมาย ETL ที่ 2.30 บาทต่อหุ้น อ้างอิงจากการคาดการณ์อัตรากำไรสุทธิปกติในปี 67 ที่คาดว่าจะทำได้ 97 ล้านบาท และจำนวนหุ้นหลัง IPO ที่ 620 ล้านหุ้น ซึ่ง EPS ปี 67 จะอยู่ที่ 0.16 บาทต่อหุ้น โดยประเมิน PER เหมาะสมที่ 14.55x โดยใช้ค่ากลาง (Median) ของบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำทั่วโลกที่มีธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนจำนวน 11 ราย ได้ราคาเหมาะสม สิ้นปี 67 ที่ 2.30 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับอนุรักษ์นิยม เนื่องจากหากนำแนวโน้มการเติบโตมาคิดคำนวณ อัตรา PEG Ratio สำหรับปี 67 จะอยู่ที่เพียง 0.45x ต่ำเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมขนส่งในประเทศไทย

พร้อมประเมินแนวโน้มผลประกอบการปี 66-68 คาดเติบโตเด่นจากแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งอ้างอิงวัตถุประสงค์การใช้เงินจาก IPO อาทิ ลงทุนยานพาหนะ ตู้คอนเทนเนอร์ และระบบการบริหารจัดการการขนส่ง คาดจะส่งผลให้ปริมาณการขนส่งของบริษัทในปี 66-68 จะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 6.99% หรือโตจาก 1.59 หมื่นเที่ยวในปี 65 เป็น 1.82 หมื่นเที่ยวในปี 68 และคาด EBIT Margin จะเพิ่มขึ้นจาก 5.4% ในปี 65 เป็น 6.6%, 6.8% และ 7.0% ในปี 66-68 ตามลำดับ จากแผนขยายการบริการของการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (LTL) และการขนส่งที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ (Cool Chain) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าการขนส่งแบบเต็มตู้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายของบริษัทเกินกว่า 90% มาจากค่าใช้จ่ายการบริหารซึ่งหรือค่าจ้างพนักงานซึ่งเป็นตัวแปรคงที่และไม่ได้ผันแปรตามรายได้

ส่วน บล.ธนชาต มองมุมบวกต่อหุ้น ETL เพราะเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) การอยู่ในกลุ่มโลจิสติกส์และการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนภายในภูมิภาค (CBS) ระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ ETL 2) บริษัทให้บริการขนส่งในหลากหลายอุตสาหกรรม 3) หลังการเสนอขายหุ้น IPO ETL มีแผนเพิ่มบริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิเพื่อจับตลาดส่งออกผลไม้ไทยที่กำลังเติบโต 4) คาดการณ์ EPS เติบโตเฉลี่ย 2 ปีที่ 20%

นอกจากนี้ คาดกำไรสุทธิปี 66F จะเติบโต 2% เพราะเป็นช่วงลดสต็อกสินค้าของซัพพลายเออร์ กำไรในปี 67-69 จะเติบโตแข็งแกร่งที่ 39% 16% และ 23% ตามลำดับ แต่ PS (fully diluted) คาดลดลง 35% และ 8% ในปี 66-67F เพราะหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 42% ในปี 65 และ 37% ใน ส.ค.67 และการขายหุ้น IPO ด้วยปัจจัยหนุนกำไรคือการเปิดตัว CBS แบบควบคุมอุณหภูมิและการฟื้นตัวของ CBS สินค้าแห้งหลังการลดสต๊อกตั้งแต่ปี 68 โดยใช้วิธี DCF ประเมินมูลค่าหุ้น ETL ได้ที่ 1.7 พันล้านบาท คิดเป็น P/E ปี 67-68 ที่ 20 เท่า และ 18 เท่า เทียบกับ 67 P/E ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น WICE และ III ที่ 15 เท่า และ 14 เท่า โดยคาด EPS ของ ETL เติบโตเฉลี่ยที่ 20% ใน 67-69

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top