เงินบาทเปิด 35.25 อ่อนค่าต่อจากวานนี้ตามทิศทางภูมิภาค ให้กรอบ 35.10-35.40

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.25 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.14 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน โดยดอลลาร์ขยับแข็งค่าตามบอนด์ยีลด์ที่ทยอยฟื้นตัวหลังร่วงลงมาแรงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

“ทิศทางบาทในสัปดาห์นี้ผันผวนสูงมาก เปิดตลาดเช้านี้บาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากเย็นงานนี้ตามทิศทางตลาดโลก น่าจะเป็นการเทขายทำกำไรของนักลงทุนแล้วกลับไปถือครองดอลลาร์ตามเดิม”

นักบริหารเงิน กล่าว

ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดจับตาดูทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศ ทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.10 – 35.40 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.85 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 147.06 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0899 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0923 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.957 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารทิสโก้ชี้ปีหน้าเศรษฐกิจโลกชะลอ กำไร บจ.ถูกปรับลด ดอกเบี้ยกลับทิศสู่ขาลง นักลงทุนเตรียมรับมือ แนะ 3 ธีมลงทุนเอาชนะปัจจัยลบ หาสินทรัพย์ อุตสาหกรรม และประเทศผู้ชนะ ลดเสี่ยงเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน
  • SCB EIC คาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะคงอยู่ที่ระดับ 2.5% ไปตลอดปี 67 โดยประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันอยู่ที่ระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว และช่วยให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายของ ธปท.ที่ 1-3% ได้อย่างต่อเนื่อง
  • จับตาไทม์ไลน์ฝ่ายค้าน เปิดศักราช 2567 วาระร้อนถกงบฯ มี.ค. – ยื่นซักฟอกรัฐบาลครั้งแรก เม.ย. หวังตรวจการบ้านนโยบายรัฐบาลครึ่งปี ด้าน นายกฯ “เศรษฐา” ยัน เข็นแจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตไทม์ไลน์เดิม ปัดแผนสองรองรับหากกฤษฎีกาคว่ำ
  • “ตลท.” เผยผลสำรวจ ซีอีโอ บจ. คาดปี 67 จีดีพีไทยเติบโต 3-4% รับปัจจัยหนุนจาก “ท่องเที่ยว-นโยบาย การคลัง-เบิกจ่ายภาครัฐ-การเมืองไทยนิ่ง” จากปีนี้ขยายตัวได้ 2-3% ส่วน ปัจจัยน่ากังวลปีหน้าความเสี่ยง “หนี้ครัวเรือน” มากที่สุด ขณะที่รายได้-กำไร บจ.ยังโตเด่น 10% ขึ้นไปในปีนี้และปีหน้า แนะรัฐเร่งสร้างเครื่องยนต์ตัวใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยั่งยืน
  • “แอตต้า-ททท.” ผนึกกำลังกู้ยอด “นักท่องเที่ยวจีน” ปี 67 ขนทัพผู้ประกอบการไทยบุกแดนมังกร 11-15 ธ.ค. หวังคืนชีพตลาด “กรุ๊ปทัวร์” โหมโรงช่วงโกลเด้นวีค “ตรุษจีน” นายกแอตต้า “ศิษฎิวัชร” ประเมินจีนเที่ยวไทยปีหน้า 6 ล้านคน ขณะ ททท. ชูกลยุทธ์ “4News-2Q” ดันเป้า 8.2 ล้านคน ด้าน “ท่องเที่ยวชลบุรี” ชี้มาตรการวีซ่า-ฟรี ต้องไปต่อ “อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์” เผยธุรกิจจีนบุกงานแสดงสินค้าในไทยทุกเซ็กเตอร์ หลังรัฐบาลจีนอัดฉีดเงินสนับสนุนออกบูธต่างประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจจีนจากพิษชะลอตัว
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.) โดยนักลงทุนยังคงเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง แม้สหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อชะลอตัวลง
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด
  • ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในกลางปีหน้า หลังจากเงินเฟ้อชะลอตัวลงโดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 3.4% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนต.ค. ชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่ปรับตัวขึ้น
    3.7%
  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Carson Group กล่าวว่า ตัวเลขดัชนี PCE ล่าสุดโดยเฉพาะดัชนี PCE พื้นฐานนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว และเงินเฟ้อไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ของสหรัฐอีกต่อไป ข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็ว ๆ นี้ และคาดว่าก้าวต่อไปของเฟดคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top