เงินบาทเปิด 34.97 อ่อนค่า หลังบอนด์ยีลด์หนุนดอลลาร์แข็งค่า ให้กรอบ 34.85-35.15

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.97 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.79 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ยกเว้นเยน

โดยดอลลาร์เคลื่อนไหวตามทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.67 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้อาจเร็วเกินไป

“บาทอ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ เนื่องจากช่วงวันหยุดมีเจ้าหน้าเฟดหลายคนออกมาแสดงความเห็นเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.67 อาจเร็วเกินไป” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.85 – 35.15 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 142.33 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 141.75 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0898 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0956 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 34.855 บาท/ดอลลาร์
  • “นายกฯ” เผยหารือ “ผู้นำ 3 ชาติอาเซียน” จ่อฟื้น ครม. ร่วมไทย-เวียดนามเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจในภูมิภาค ชูเชื่อมโยงท่องเที่ยว 4 ชาติ เผย “ปธน. อินโดฯ” สั่งซื้อข้าวไทย 2 ล้านตัน
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 ธันวาคม 2566 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 75,218.10 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 4,547.19 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 191,952.17 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ซื้อสุทธิ 121,281.26 ล้านบาท
  • “ปลัดแรงงาน” ส่ง “ม.ธรรมศาสตร์” ปรับสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ นัดบอร์ดถก 20 ธ.ค. หวัง ครม.เคาะทันสิ้นปี “นิด้าโพล” เผย ปชช. 48.93% หนุนขึ้นเงินเดือน ขรก.กลุ่มแรก ส่วนขึ้นค่าแรง 35.11% หนุนขึ้นเท่ากันทุกจังหวัด
  • สำนักงบประมาณสภาคองเกรส (CBO) คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะชะลอตัวลงเหลือ 1.5% ในปี 2567 และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ในปีหน้า จากที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับเฉลี่ย 3.9% ในไตรมาสนี้
  • คอมเมิร์ซแบงค์ เอจี ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ของเยอรมนี คาดการณ์ว่า ราคาทองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2,150 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
  • ความหวังของนักลงทุนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเริ่มลดน้อยลง หลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เฟดยังไม่ได้ทำการหารือกันในขณะนี้เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันอังคารนี้ (19 ธ.ค.) อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินในปีหน้า หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า BOJ ใกล้จะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (ultra-low interest rates) โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายญี่ปุ่นยังคงอยู่ที่ระดับ -0.1%
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์จากมุมมองของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนธ.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือนพ.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 (final) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top