เงินบาทเปิด 34.93 จับตานายกฯ ถกผู้ว่าฯ ธปท. คาดกรอบวันนี้ 34.80-35.10

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.93 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.89 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้ เงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์เพื่อนำมาประเมินทิศทางการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

สำหรับปัจจัยในประเทศ วันนี้ต้องจับตาดูกรณีที่นายกรัฐมนตรีเชิญผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าจะส่งสัญญาณอย่างไร หลังมีความเห็นขัดแย้งกันเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนเงินทุนต่างประเทศที่เข้ามาในตลาดพันธบัตรยังไร้ทิศทางชัดเจน

“บาทอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ ตามทิศทางตลาดโลก เริ่มทยอยฟื้นตัวจากก่อนหน้าที่อ่อนค่ามากสุดในภูมิภาคจากข่าวความขัดแย้งเรื่องทิศทางดอกเบี้ย บาทน่าจะแกว่งตัวในช่วง 34 ปลายถึงต้น 35 (บาท/ดอลลาร์)”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.80 – 35.10 บาท/ดอลลาร์

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 144.54 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 143.91 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0932 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0941 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 34.875 บาท/ดอลลาร์
  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เชิญนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล หลังมีความเห็นต่างในเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย และพิจารณาข้อเสนอแนะต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (9 ม.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4%
  • นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีนี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ให้น้ำหนัก 79%
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • ธนาคารโลกออกรายงาน “แนวโน้มเศรษฐกิจโลก” โดยระบุเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัวเพียง 2.4% ในปีนี้ โดยชะลอตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ก่อนที่จะขยายตัว 2.7% ในปีหน้า
  • กระทรวงกลาโหมอังกฤษ ประกาศส่งเรือรบ HMS Richmond เข้าร่วมกับกองเรือที่นำโดยสหรัฐเพื่อป้องกันการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีต่อเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง
  • รมต.กลาโหมอิสราเอล ยืนยันการเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของความรุนแรงในภูมิภาค หลังจากอิสราเอลเผชิญการโจมตีจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ จีนเปิดเผยยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนธ.ค., เกาหลีใต้เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนธ.ค. และสหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top