ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (15 ก.พ.) โดยการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นฝรั่งเศสและเยอรมนีสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนประเมินความเห็นของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับกระบวนการลดเงินเฟ้อในยูโรโซน
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 488.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.30 จุด หรือ +0.68%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,743.42 จุด เพิ่มขึ้น 66.07 จุด หรือ +0.86%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,046.69 จุด เพิ่มขึ้น 101.21 จุด หรือ +0.60% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,597.53 จุด เพิ่มขึ้น 29.13 จุด หรือ +0.38%
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสได้แรงหนุนจากหุ้นเรโนลต์ซึ่งพุ่งขึ้น 6.5% หลังรายงานกำไรและรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มเงินปันผลขึ้นอย่างมาก ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรปสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นฝรั่งเศสยังได้แรงหนุนจากหุ้นเพอร์นอด ริคาร์ด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสุรา ที่พุ่งขึ้นเกือบ 2% หลังยืนยันคาดการณ์การขยายตัวในระยะยาว
ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ที่พุ่งขึ้น 5.5% หลังเปิดเผยผลกำไรปี 2566 สูงที่สุดในรอบ 15 ปี โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายดัชนีในปีนี้เป็น 510 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 5% จากระดับปัจจุบัน
ตลาดยังได้แรงหนุนหลังนางลาการ์ดเปิดเผยกับรัฐสภายุโรปว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังลดลงสู่เป้าหมายตามคาด
นักวิเคราะห์รายหนึ่งแสดงความเห็นว่า ECB มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง
ส่วนตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้น หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า BoE จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป