เงินบาทเปิด 35.97 แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 35.90-36.10 รอติดตามข้อมูลศก.สหรัฐ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.97 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 36.06 บาท/ดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท แม้จะมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าทะลุระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ ไปบ้างในวันก่อนหน้า แต่โดยรวม ลยังคงมุมมองเดิมว่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่ง sideways down เนื่องจากปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ลดลงไปบ้าง และเงินบาทยังขาดปัจจัย หนุนการแข็งค่าขึ้นที่ชัดเจน

วันนี้ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ เดือนม.ค. ซึ่งตลาดต่างคาดหวังว่า อัตราเงินเฟ้อ PCE จะมีแนวโน้มชะลอตัวลง ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมีโอกาสทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 3 ครั้ง ตามที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด

นอกจากนี้ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่ตลาดจะให้ความสนใจ และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวแล้ว ตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนว โน้มการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไปของเฟด

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.10 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.47 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 150.78 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0835 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0811 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.974 บาท/ดอลลาร์

– เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้เร็วขึ้น 2 สัปดาห์ตามมติของคณะ รัฐมนตรี โดยจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป เดิมกำหนดวันที่ 17 เม.ย. เป็นวันที่ 3 เม.ย. มีความ สำคัญต่อเศรษฐกิจภาพรวม โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันเข้ามายังไม่ได้ใช้งบลงทุนในโครงการใหม่ เมื่อ ไล่เรียงดูงบลงทุนจากการใช้งบประมาณปี 2566 ถือว่าพลาดเป้าไป 10,000 ล้านบาท

– เศรษฐา’แถลงแผนฮับการบิน 1 มี.ค.นี้ ทอท. ลุย 4 เรื่องลดผู้โดยสารแออัด ททท.จัดเวิร์กช็อป ดันเป็นศูนย์กลางท่อง เที่ยว ‘ภูมิธรรม’ควง ‘ฟรีน-เบ็คกี้’คู่จิ้นซีรีส์ยูริช่วยบูมสินค้าชุมชนไทย ต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์สู่ระดับโลก รสก.เบิกจ่ายงบแล้ว 3.8 หมื่น ล้าน

– กระทรวงการคลัง และ ธปท. ได้หารือร่วมกันถึงความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล)ใน ระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐหลังจากเกิดวิกฤติโควิดซึ่งมีผลกระทบต่อลูกหนี้จำนวนมาก จึงออกมาตรการชั่วคราวเพื่อส่ง เสริมให้แบงก์รัฐและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (เอเอ็มซี) ร่วมลงทุนในการบริหารหนี้เสียเอ็นพีแอล ภายในระยะเวลา 15 ปี โดยให้จัดตั้ง กิจการร่วมทุนฯ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.67

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตร มาส 4/2566 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.2% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.3%

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (28 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐและยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้ และการปรับสถานะการลงทุนในช่วงสิ้นเดือนอาจจะกำหนด ทิศทางตลาด

– บรรดานักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดจับตา ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนม.ค.

– ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า มีโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ โดยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมี การเปิดเผยออกมาในอนาคต

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงในการซื้อขายเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่า ของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.พ. 67)

Tags: ,
Back to Top