ไมโครซอฟท์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (29 ก.พ.) ว่า จะเปิดตัวแชตบอต โคไพลอต (Copilot) ซึ่งสามารถช่วยทำงานสำคัญสำหรับผู้ที่ทำงานในด้านการเงิน โดยไมโครซอฟท์จะเปิดให้สาธารณะได้ทำการทดลองใช้ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และจะมีการเปิดเผยรายละเอียดราคาค่าบริการในภายหลัง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านธุรกิจหลาย ๆ แห่ง เช่น ฮับสปอต (HubSpot) และเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ต่างดำเนินการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของตนด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) โดยมุ่งหวังเพิ่มประสิทธิผลให้กับผู้ใช้
แนวโน้มนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่โอเพนเอไอ (OpenAI) เปิดตัวแชตบอตเอไออย่าง แชตจีพีที (ChatGPT) ในปี 2565 ซึ่งสามารถสร้างข้อความที่ดูเป็นธรรมชาติ หรือสร้างเนื้อหาอื่น ๆ ได้ด้วยการใช้ข้อความคำสั่งเพียงไม่กี่คำ
นายชาร์ลส ลามันนา รองประธานไมโครซอฟท์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในนครซานฟรานซิสโกเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) ว่า ในบริษัททั่ว ๆ ไปนั้น มีหลายบริษัทที่มีพนักงานทำงานในแผนกเฉพาะทางที่ต่างออกไป ซึ่งไมโครซอฟท์ตั้งเป้าที่จะเสริมศักยภาพและยกระดับการทำงานในทุก ๆ แผนกด้วย Copilot
ไมโครซอฟท์ได้บรรจุ Copilot ลงในแอปพลิเคชันออฟฟิศ (Office) สำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมทั่วไปแล้ว และได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันที่ออกแบบมาสำหรับพนักงานขายและพนักงานบริการลูกค้าโดยเฉพาะ
Copilot for Finance ซึ่งเน้นการทำงานด้านการเงิน จะเริ่มต้นด้วยการทำงานต่าง ๆ เช่นการวิเคราะห์ผลต่าง การกระทบยอดข้อมูลในเอกซ์เซล (Excel) และเร่งกระบวนการรวบรวมข้อมูลในเอาต์ลุก (Outlook) และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในเอสเอพี (SAP) และไมโครซอฟท์ ไดนามิกส์ 365 (Microsoft Dynamics 365) ได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว นายลามันนาเสริมว่าจะมีการเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ เข้าไปใน Copilot for Finance ในช่วงปลายปีนี้
นายลามันนากล่าวอีกว่า เดนท์สุ (Dentsu) บริษัทโฆษณารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จะใช้ Copilot สำหรับการทำงานด้านการเงิน
ไมโครซอฟท์กล่าวว่า แผนกการเงินมีส่วนช่วยในการพัฒนา Copilot เวอร์ชันใหม่ และได้พบว่าซอฟต์แวร์มีประโยชน์ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นใช้งาน
นายโครี เฮิร์นชีริก หัวหน้าฝ่ายการเงินสมัยใหม่ในสำนักงานประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า การเปรียบเทียบข้อมูลจากระบบต่าง ๆ เป็นการงานทั่วไปสำหรับแผนกการเงินในบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งต้องใช้คนเป็นจำนวนมาก โดยในปัจจุบัน พนักงานราว 2-3 พันคนในทีมวางแผนและวิเคราะห์ทางการเงินแต่ละคนใช้เวลาประมาณ 1 หรือ 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการกระทบยอด และด้วยการใช้งาน Copilot เวอร์ชันใหม่นี้ ทำให้การทำงานดังกล่าวใช้เวลาเพียงประมาณ 10-20 นาทีต่อสัปดาห์เท่านั้น
นายเฮิร์นชีริกกล่าวว่า แนวคิดของ Copilot คือการช่วยให้พนักงานเหล่านี้ใช้เวลาน้อยลงกับงานที่จำเจและใช้เวลานาน ซึ่งจะทำให้พวกเขามีเวลามากขึ้นและสามารถจัดสรรเวลาไปทำงานที่มีส่วนร่วมอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยบริษัทของพวกเขาได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานฝ่ายการเงินของไมโครซอฟท์ไม่จำเป็นต้องใช้งาน Copilot เวอร์ชันใหม่
“หากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจำนวนมากในบริษัทใดบริษัทหนึ่งใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์นี้ บริษัทก็อาจสามารถเร่งกระบวนการปิดบัญชีให้เร็วขึ้นได้…ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญสำหรับซีเอฟโอ” นายลามันนากล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 67)
Tags: Copilot, ปัญญาประดิษฐ์, แชตบอต โคไพลอต, ไมโครซอฟท์