ผบ.ทัพยูเครนเผยโดรนคือกุญแจสำคัญสู่ความได้เปรียบเหนือรัสเซีย

พลเอกโอเล็กซานเดอร์ เซียร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน กล่าวเมื่อวันจันทร์ (18 มี.ค.) ว่า การพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้กองทัพยูเครนได้เปรียบเหนือรัสเซียที่มีจำนวนทหารมากกว่า

“การพัฒนาการใช้ระบบอากาศยานไร้คนขับเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ เรากำลังมองหาแนวทางที่สร้างความได้เปรียบในเชิงคุณภาพ แม้กำลังรบของฝ่ายตรงข้ามจะมีจำนวนมากกว่า” พล.อ.เซียร์สกีกล่าวผ่านทางแอปเทเลแกรม หลังการประชุมกับรองผู้บัญชาการ พันเอกวาดิม ซูคาเรฟสกี

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การใช้งานโดรนที่เพิ่มมากขึ้นของทั้งสองฝ่ายได้เปลี่ยนรูปแบบสงครามออกจากสนามรบ มาเป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางการทหาร พลังงาน และการขนส่งของฝ่ายตรงข้ามแทน

เนื่องจากยูเครนมีจำนวนทหารและอาวุธน้อยกว่ารัสเซีย ฝ่ายรัสเซียจึงได้เพิ่มแรงกดดันต่อทัพยูเครนตามพื้นที่แนวหน้าทั้งหมดและค่อย ๆ รุกคืบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งในรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 มี.ค.) และได้ดำรงตำแหน่งปธน.ต่อไปอีก 6 ปีนั้น กล่าวว่ากองกำลังของรัสเซียมีความได้เปรียบเหนือยูเครนในสมรภูมิ และให้คำมั่นว่าจะดำเนินปฏิบัติการทางการทหารต่อไป

ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนได้มีคำสั่งปฏิรูปกองทัพ โดยให้จัดตั้งหน่วยสำหรับควบคุมโดรนแยกออกมาจากกองทัพโดยเฉพาะ โดยแต่งตั้งให้พ.อ.ซูคาเรฟสกีเป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนาโดรนและการให้ทหารใช้งานโดรน

เหล่านักวิเคราะห์การทหารมองว่าโดรนอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ยูเครนมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีเหนือรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่และอาวุธอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม รัสเซียเองก็กำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมโดรนของตนด้วยเช่นกัน

การที่โดรนมีขนาดเล็กลง มีอานุภาพร้ายแรงมากขึ้น และบินได้ไกลขึ้น ทำให้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กองทัพยูเครนได้ส่งฝูงโดรนไปโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียได้สำเร็จหลายครั้ง โดยทำลายกำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซียไปทั้งสิ้นประมาณ 7% ในช่วงไตรมาสแรกของปี

นอกจากนี้ ยูเครนยังได้ใช้โดรนทางน้ำและทางอากาศโจมตีกองเรือทะเลดำของรัสเซียในไครเมียอีกด้วย โดยบางครั้งก็โจมตีได้สำเร็จ ส่งผลให้กระทรวงกลาโหมของรัสเซียให้คำมั่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะปกป้องกองเรือจากการโจมตีครั้งต่อ ๆ ไป

ทั้งนี้ สงครามเต็มรูปแบบที่รัสเซียเริ่มเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อกว่าสองปีก่อนได้คร่าชีวิตผู้คนจากทั้งสองฝ่ายไปมากมาย และทำให้ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มี.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top