เตือนไทยรับมือพายุฤดูร้อนจนถึง 30 มี.ค.นี้ ฝนกระหน่ำหลายพื้นที่

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เผยจากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) พบว่า ในระยะนี้ประเทศไทยมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนจนถึง 30 มี.ค.นี้ โดยตั้งแต่วานนี้ (26 มี.ค.) มีฝนตกมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหลังจากนี้ยังมีโอกาสจะเกิดฝนในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลงในวันที่ 30 มี.ค.67 ก่อนจะมีแนวโน้มที่ฝนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ปริมาณฝนจะเริ่มตกมากตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.67 แต่คาดว่าอาจจะเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงได้ประมาณเดือน ก.ค.67 ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่ง สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ข้อมูลแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นข้อมูลสำหรับเกษตรกรเพื่อนำไปใช้วางแผนการเพาะปลูกได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

*ของดทำนาปรังรอบ 2 ลดเสี่ยงน้ำไม่พอ

แม้ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยจะประสบกับสภาวะเอลนีโญซึ่งทำให้มีฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการร่วมกันในการกักเก็บปริมาณน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้ปัจจุบันปริมาณน้ำในแหล่งน้ำทั้งประเทศมีปริมาณ 60% ของความจุ ซึ่งน้อยกว่า ณ ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 4% แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี โดยมั่นใจได้ว่าจะมีปริมาณน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค การเกษตร และรักษาระบบนิเวศอย่างเพียงพอ แต่สำหรับการเพาะปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาซึ่งมีจำนวนพื้นที่เพาะปลูกเกินแผน ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำหลายแห่งมีการจัดสรรน้ำเกินแผนงานที่วางไว้ กรมชลประทานได้เสนอขอปรับแผนการจัดสรรน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และขอย้ำว่ายังจำเป็นต้องมีการรณรงค์งดทำนาปรังรอบที่ 2 อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเผชิญปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต นอกจากนี้ สทนช.จะเสนอร่างมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 เพื่อเร่งเตรียมพร้อมรองรับฤดูฝนที่คาดว่าจะเกิดสภาวะลานีญาด้วย

*เฝ้าระวังระดับน้ำโขงเปลี่ยนแปลงฉับพลัน

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง ซึ่ง สทนช.ได้แจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบจากระดับแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงฉับพลันในช่วงวันที่ 26-31 มี.ค.67 บริเวณสถานีเชียงแสน จ.เชียงราย สถานีเชียงคาน จ.เลย และตั้งแต่สถานีหนองคาย จ.หนองคาย จนถึงสถานีโขงเจียม จ.อุบลราชธานี เนื่องจากมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเขื่อนจิ่งหง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยคาดว่าระดับน้ำจะมีการเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30-70 เซนติเมตร ซึ่งไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงมากนัก โดยจากการติดตามสำรวจ ขณะนี้ไม่พบว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบ แต่จะยังคงมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

*เฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปา หลังปริมาณสาหร่ายที่ในน.เจ้าพระยาสูงขึ้น

นอกจากนี้ สทนช.ยังได้ติดตามปัญหาการเจริญเติบโตของสาหร่ายในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา โดยการประปานครหลวงได้มีการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำและบำบัดน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถผลิตน้ำประปาได้ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขและองค์การอนามัยโลก ที่มีความสะอาดปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชนทุกคน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top