ญี่ปุ่นส่งออกชะลอตัวเดือนเม.ย. จากผลกระทบภาษีทรัมป์ คาดทำศก.เสี่ยงถดถอย

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (21 พ.ค.) ว่า ยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 9.16 ล้านล้านเยน ซึ่งแม้ว่าปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 แต่ก็ชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 4% เนื่องจากการส่งออกรถยนต์และเหล็กปรับตัวลง อันเป็นผลมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ

ส่วนยอดนำเข้าลดลง 2.2% แตะที่ระดับ 9.27 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือน เนื่องจากการนำเข้าถ่านหินและน้ำมันดิบชะลอตัวลง

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 1.158 แสนล้านเยน (802 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

รายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า ญี่ปุ่นเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มูลค่า 7.806 แสนล้านเยนในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 14.3% เมื่อเทียบรายปี โดยยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนั้น ลดลง 1.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

ญี่ปุ่นส่งออกไปยังเอเชียเพิ่มขึ้น 6% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ส่งออกไปยังจีนลดลง 0.6% เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่อ่อนแอลง ทั้งนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับจีนมูลค่า 6.791 แสนล้านเยนในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการขาดดุลติดต่อกันเดือนที่ 49

การส่งออกที่ชะลอตัวลงอาจทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลงอีกและมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขประมาณการเบื้องต้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลง 0.2% ในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นการหดตัวรายไตรมาสครั้งแรกในรอบ 1 ปี และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.1%

เมื่อเทียบเป็นรายปี GDP ไตรมาส 1 หดตัวลง 0.7% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.2%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top