
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.61 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.49 บาท/ดอลลาร์
โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยอ่อนค่าลง แม้ว่าโดยรวมเงินดอลลาร์จะไม่ได้แข็งค่าขึ้นชัดเจน ซึ่งการอ่อนค่าลงของเงินบาทนั้น ถูกขับเคลื่อนด้วยการปรับตัวลดลงของราคาทองคำพอสมควร
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ระหว่างวันอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways เนื่องจากตลาดต่างรอลุ้นรายงานข้อมูลการ จ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้ ทั้งยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม, อัตราการว่างงาน และอัตราการเติบโตของค่าจ้างเดือนพ.ค. ขณะเดียว กัน ควรจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งยังคงเป็น Two-Way risk สำหรับเงินบาท
ปัจจัยในประเทศวันนี้ ตลาดจะรอติดตามรายงานอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของไทยเดือนพ.ค. ซึ่งยังมีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง และต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย 1-3% ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามฐานของราคาสินค้าและบริการของปีก่อนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงการ ปรับตัวลดลงของราคาพลังงานโลก
นอกเหนือจากปัจจัยข้างต้น ตลาดจะรอติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.40-32.80 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 143.12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1449 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1419 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.571 บาท/ดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์ จะแถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อ เดือนพ.ค.68 ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ของไทย มีโอกาสจะติดลบต่อเนื่องจากเดือนเม.ย. เนื่องจากเทียบกับฐานสูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้ง ราคาพลังงานโลกปรับตัวลดลง
- รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้พบหารือกับนายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าและความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและความโปร่งใสเพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพ ยุโรป (EU) และผลักดันให้สรุปผลได้ภายในปีนี้ตามเป้าหมาย
- ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 68 นี้ แย่กว่าช่วงเกิดโควิด-19 โดยเปรียบเสมือนกับยุครถ 3 ล้อ ที่ ถดถอยแต่ยังสามารถอยู่กันได้ หากเศรษฐกิจดีก็จะเหมือนรถยนต์อีวี โดยแต่ละยุคเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่เหมือนกัน บางยุคเศรษฐกิจไม่ดีก็ ยังเป็นโอกาสเช่นเดียวกับยุคเศรษฐกิจดีหากมีการปรับตัวก็จะอยู่รอด ส่วนเศรษฐกิจในอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นต้องจับตาความเคลื่อน ไหวจากนโยบายสหรัฐ แต่เชื่อว่ากระทบทั่วโลกได้ไม่นานเพราะทุกประเทศรับรู้และพร้อมตั้งหลักแล้ว
- อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย ว่า ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่การท่องเที่ยวไทยต้องปรับตัวครั้ง ใหญ่ เพราะอาจจะสิ้นยุคทองที่มีมายาวนาน โดยต่อจากนี้ไทยต้องปรับให้เป็นจุดหมายปลายทางที่อเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม บนพื้นฐานของความ สมดุล คุณภาพ ยั่งยืน เพื่อพัฒนาเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น พ้นจากสภาวะอุตสาหกรรมกบต้มที่ค่อยๆ ย่ำแย่แบบไม่รู้ตัวและกว่าจะรู้สึกก็สายไป แล้ว
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานี้ตามคาด และเป็นการปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยครั้งที่ 8 นับตั้งแต่ ECB เริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. 2567
- ประธาน ECB กล่าวหลังจากการประชุมว่า ECB กำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจาก ที่ ECB ได้ดำเนินนโยบายดังกล่าวมาเป็นเวลานานเพื่อตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน รวมถึงสงครามในยูเครนและวิกฤตพลังงาน
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 247,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนต.ค.2567 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 237,000 ราย
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลดลง 55.5% สู่ระดับ 6.16 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม. ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2566 จากระดับ 1.383 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ส่วนการนำเข้าลดลง 16.3% สู่ระดับ 3.510 แสนล้านดอลลาร์ และการส่งออกเพิ่มขึ้น 3.0% สู่ระดับ 2.894 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 3.8% ในไตรมาส 2/2568 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.2% ในไตรมาส 1
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โพสต์ข้อความลงใน Truth Social ระบุว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง เขาและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันนี้ ซึ่งดำเนินไปเป็นเวลา 90 นาที เป็นการสนทนาที่เป็นไปด้วยดี และมีเนื้อหาเกี่ยวกับการ ค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้ได้ข้อสรุปที่ดีสำหรับทั้งสองประเทศ
- สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าอาจจะยุติวงจรการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินที่ดำเนินการมาเป็นเวลานานนับปี ขณะที่ สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลัง จากมีรายงานว่าการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เป็นไปด้วย ดี นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะเดินหน้าการเจรจาต่อไปเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตรา ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนพ. ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 68)
Tags: ค่าเงินบาท, เงินบาท