“ประเสริฐ” ไม่หวั่น! พร้อมแจง ป.ป.ช.ปมสอบทุจริตงบบริหารจัดการน้ำกว่า 5 หมื่นลบ.

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.68 รับไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงปี 2568 โดยมีการอนุมัติโครงการทั้งสิ้น 28,990 โครงการ ซึ่งนายประเสริฐ เป็นผู้อนุมัติให้เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. รวมงบประมาณทั้งสิ้น 51,584 ล้านบาทนั้น

ทุกอย่างมีกระบวนการ และข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งโครงการนี้เริ่มจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้คีย์เข้าระบบไทย วอร์เตอร์ แพลน ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำ เมื่อมีโครงการรวมกันแล้ว ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งมีคณะกรรมการเป็น 100 คน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ และมาจากภาคประชาชน และข้าราชการในการพิจารณา หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่คณะกรรมการลุ่มน้ำ เมื่อผ่านการกลั่นกรองแล้ว ก็เข้าสู่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช.

“ในฐานะที่ผมเป็นประธาน ก็จะมีการลงนาม เพื่อเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ซึ่งตอนนั้นงบประมาณอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท และถูกตัดเหลือประมาณ 7,000 ล้านบาท จากนั้น สำนักงบประมาณก็นำไปกลั่นกรองอีก ว่าโครงการไหนจำเป็นเร่งด่วน ก็ถูกพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง” นายประเสริฐ กล่าว

พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มี สส.พรรคเพื่อไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง และขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่มีหนังสือแจ้งมาถึงตนเพื่อให้ไปชี้แจงในเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ทราบจากการรายงานข่าว แต่หาก ป.ป.ช.เรียกมาก็พร้อมไปชี้แจง และยินดีให้ตรวจสอบ เพราะเรื่องนี้ไม่ทำให้หนักใจใด ๆ ทั้งสิ้น ยืนยันไม่มีการฮั้วกันระหว่างตนกับ สส. เพราะเรื่องนี้ สส.ไม่เกี่ยวข้อง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ป.ป.ช.รับไต่สวนในช่วงที่มีกระแสข่าวการปรับ ครม.นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองเช่นนั้น การแก้ไขปัญหาภัยแล้งถือเป็นการแก้ปัญหาให้กับประชาชน อยากดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพราะขณะนี้อยู่ใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้ว หากไม่ดำเนินการ ประชาชนก็จะไม่ได้รับประโยชน์

อย่างไรก็ดี ยินดีให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และไม่ทราบรายละเอียดในการร้องเรียน จึงไม่ทราบว่าเป็นการดิสเครดิต หรือทำให้เกิดผลทางการเมืองหรือไม่ และไม่อยากให้มองว่าเป็นการดิสเครดิต หรือสกัดไม่ให้ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพราะเรื่องนี้เป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับพี่น้องประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ

นายประเสริฐ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีแปรญัตติ หรือให้งบฯ กับ สส.ทั้งสิ้น เนื่องจากผ่านคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งไม่มีองค์ประกอบที่เป็น สส. โครงการทั้งหมดถูกเสนอโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ พร้อมปฏิเสธกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้งลงแต่พื้นที่ สส.พรรคเพื่อไทย

“มีการจัดสรรลงหลายพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะ สส.พรรคเพื่อไทย แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาภัยแล้งส่วนใหญ่ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก และภาคเหนือบางส่วน ซึ่งความจริงแล้วมีการกระจายตัวของโครงการ ไม่ใช่ในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย หากดูข้อมูลแล้วจะเห็นได้ชัด” นายประเสริฐ กล่าว

ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติรับเรื่องกรณีกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพวก จัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง นั้น นายประเสริฐ บอกว่า ยังไม่เห็น และยังไม่ทราบเรื่อง

ส่วนเรื่องนี้จะมีผลให้ ครม. สส. และ สว.หลุดจากตำแหน่งได้ในลักษณะเหมาเข่ง หรือล้างกระดานหรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า คงไม่ง่าย ถ้าดูตามเหตุผล คิดว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ที่จะทำให้ถึงขั้นที่ สส.ต้องติดบ่วงในเรื่องนี้ และเรื่องนี้ตนเพียงรับฟังจากการรายงานข่าว ก็ต้องรอดูความชัดเจนจาก ป.ป.ช. อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวเชื่อว่าทั้ง 2 คดีนี้ ไม่ทำให้ ครม.มีความเสี่ยง เพราะ ครม.อนุมัติไปตามขั้นตอนหรือวิธีการกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ส่วนในรายละเอียดมันมีที่ไปที่มาที่ถูกต้อง เหมือนเรื่องน้ำที่ตนดูแลอยู่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 68)

Tags: , , ,
Back to Top