ศาลฯ เรียกสอบพยานเพิ่ม 20 ปากหลังไต่สวนผบ.เรือนจำคดี “ทักษิณ” ชั้น 14

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้เรียกสอบพยานเพิ่ม จำนวน 20 ปาก ในคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัว ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ได้แก่ แพทย์ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์, อดีตผู้บัญชาการเรือนจำฯ, พัสดีเวร, พยาบาลเวร, เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ควบคุมขณะนายทักษิณ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ เป็นต้น มาไต่สวนในวันที่ 4, 8 และ 15 ก.ค. 68 หลังได้ไต่สวนนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในช่วงเช้าวันนี้

นอกจากนี้ยังให้คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดส่งรายงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) และแพทยสภา มาให้ศาลฎีกาฯ ทางไปรษณีย์ และให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครส่งประวัติการรักษาพยาบาลของนายทักษิณในต่างประเทศ และรายงานการควบคุมตัวนายทักษิณขณะพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ

ส่วนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายทักษิณ ศาลฯอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงถึงวันที่ 20 มิ.ย.และ วันที่ 23 มิ.ย. ตามลำดับ

ด้านนายมานพ ให้การว่า เมื่อมีการส่งตัวนายทักษิณมาที่เรือนจำฯ วันแรกได้มีการทำประวัติผู้ต้องขัง และมีการทำใบส่งตัวล่วงหน้าเผื่อกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วย 608 และการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาภายนอกจะยึดแนวทางตามกฎกระทรวง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมและเครื่องพันธนาการเพื่อป้องกันหลบหนี

สำหรับสถานพยาบาลในเรือนจำฯ นั้นเป็นสถานพยาบาลขั้นปฐมภูมิที่มีพยาบาลประจำ 1 คน แต่ไม่มีแพทย์ เมื่อมีผู้ต้องขังเกิดเหตุฉุกเฉินจะส่งตัวมาให้แพทย์ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ วินิจฉัยในการส่งตัวไปรักษายังสถานพยาบาลภายนอกทุกครั้ง แต่กรณีของนายทักษิณนั้นไม่ได้ส่งตัวมาที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ หลังพยาบาลตรวจติดตามอาการแล้วพบว่ามีความดันสูง ค่าออกซิเจนผิดปกติ นอนไม่หลับ แขนขาอ่อนแรง จึงได้โทรปรึกษากับแพทย์แล้วส่งตัวไปที่ รพ.ตำรวจเลย

หลังจากนั้นศาลฎีกาฯ ได้เปิดโอกาสให้ทนายจำเลยสอบถามพยานเพิ่มเติมในบางประเด็นเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง แต่ไม่อนุญาตให้ซักค้าน และให้ทนายจำเลยยื่นคำแถลงต่อศาลฎีกาฯ ตามสิทธิที่คาดว่าจะมี ซึ่งศาลฎีกาฯ จะให้โอกาสจำเลยตามความเหมาะสม และอนุญาตให้คัดสำเนาเอกสารเพื่อจะได้ไม่สอบถามพยานซ้ำซ้อนกับคำชี้แจง

ในวันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนกรณีไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของนายทักษิณ โดยมีตัวแทน อัยการสูงสุด, ตัวแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะโจทก์, นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ในฐานะตัวแทนจำเลย, นายมานะ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เดินทางมาตามนัด

นอกจากนี้ยังมีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ซึ่งเคยยื่นคำร้องในเรื่องดังกล่าวเดินทางมาติดตามความคืบหน้าด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 68)

Tags: , ,
Back to Top