พรรคประชาชน จี้นายกฯ ลาออก-ยุบสภา เซ่นปมคลิปเสียงหลุด

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นต่อคลิปเสียงบทสนทนาของผู้นำไทย-กัมพูชาว่า จากกรณีคลิปเสียงสนทนาบางส่วนระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับสมเด็จฮุน เซน ประธานองคมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่เผยแพร่ออกมาวันนี้

ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน มองว่า หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่น และความไว้วางใจของประชาชนไทยให้กลับมาได้โดยเร็ว ตนขอเรียกร้องให้น.ส.แพทองธาร แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้แก่ประชาชน และเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลบางกลุ่มปลุกปั่นความผิดพลาดของน.ส.แพทองธาร ให้บานปลายจนนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย

เช่นเดียวกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะนายกรัฐมนตรี นอกจากจะเป็นประมุขฝ่ายบริหาร ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.กอ.รมน.) และเป็นประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสำคัญ ในเรื่องการปกป้องอธิปไตย และความมั่นคงของชาติ

ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นประมุขฝ่ายบริหาร ต้องตระหนักเอาไว้ว่า สมควรหรือไม่ เพราะการเจรจาไม่มีประโยคใดเลยที่ยืนยันในความชอบธรรม และจุดยืนของประเทศไทย ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่มี และยากจะเข้าใจได้ที่สุดคือการดิสเครดิตทีมงานด้วยกัน

“ไม่ใช่ว่าตำหนิทหารไม่ได้ แต่ตำหนิในวงของเราสิ ไม่ได้บอกว่าตำหนิแม่ทัพภาคที่สองไม่ได้ หรือต้องเห็นด้วยทุกเรื่อง ไม่จำเป็น แต่เราควรมาคุยในวงประชุมของเรา

คลิปที่เกิดขึ้นนี้ หมดเวลาท่านนายกฯ แล้วครับ ผมยืนยันในจุดนี้ ผมไม่อยากพูดคำนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าจะพูดแบกท่านนายกฯ ต่อไปอย่างไร ที่จะทำให้ประชาชนคนไทยกลับมาให้ความเชื่อมั่นกับนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในการคลี่คลายปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อไป จะมั่นใจได้อย่างไรว่า การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี จะคิดถึงผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก นี่คือคำถามที่เมื่อฟังแถลงการณ์ของนายกฯ ท่านก็ไม่สามารถคลี่คลายข้อพิพากษ์วิจารณ์ และข้อสงสัยของประชาชนได้ ผมว่าทางออกเดียวของนายกฯ คือการลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น …การลาออกของท่านจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ประชาชนให้อภัย และประเทศชาติเดินหน้าต่อได้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้” นายวิโรจน์ กล่าว

ส่วนเรื่องนี้จะทำให้ถึงขั้นเกิดการรัฐประหารหรือไม่ นายวิโรจน์ มองว่า รัฐประหารไม่มีอยู่แล้ว หากทำรัฐประหารก็ยิ่งเข้าทางสมเด็จฮุน เซน และนายฮุน มาเนต ในการที่จะทำลายความชอบธรรมของไทย เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในเวทีนานาชาติ ยิ่งหากมีการรัฐประหารในช่วงนี้ ไม่ต้องเจรจา แค่เดินสายอธิบายกับนานาอารยประเทศถึงการดำรงอยู่ของรัฐบาลที่ทำรัฐประหาร รัฐบาลก็อยู่ยากมาก ๆ แล้ว ในเวทีโลก ไม่ต้องไปเจรจา ถือว่าเราทำลายระบบการปกครองของเราเอง

“นี่ประเทศไทย ไม่ใช่ธุรกิจของท่าน ไม่ใช่ทรัพย์สินภายในตระกูลท่าน ที่จะใช้ตั๋ว P/N แลกไปแลกมา ผมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีหมดความชอบธรรมแล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 68)