TOPICSTODAY: เกาะติดโผครม. “อิ๊งค์2” ยังฝุ่นตลบ/จับตาทิศทางราคาน้ำมัน-ทอง

ประเด็นการเมืองในประเทศวันนี้ ต้องจับตาความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งล่าสุด เมื่อบ่ายวานนี้ (22 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมาหารือกัน เพื่อเกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีใน ครม.ที่ว่างลง 8 เก้าอี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลไปเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.

การหารือดังกล่าว หากมองภาพจากภายนอก อาจจะดูดีไม่มีปัญหา สามารถเคลียร์โควต้ากันได้ลงตัว เพราะภายหลังจากการพบปะร่วมกันแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ขอบคุณทุกพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และร่วมกันเดินหน้าแก้ปัญหาทั้งภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ รวมทั้งการขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป

แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะอาจมีคลื่นใต้น้ำที่ยังมีแรงกระเพื่อมจากบางพรรคร่วมรัฐบาลที่มีปัญหาความไม่ลงรอยกันเองภายในพรรค ถึงขั้นแบ่งเป็น 2 ขั้ว ขั้วแรกยังพร้อมสนับสนุนและร่วมรัฐบาลต่อไป แต่อีกขั้วพร้อมจะสนับสนุนรัฐบาล แต่มีเงื่อนไขให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี งานนี้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จะรับมือกับข้อต่อรองบรรดาพรรคร่วมอย่างไร เพราะเริ่มจะเห็นเกมการถือไพ่ที่เหนือกว่ามาเป็นอำนาจต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี และการร่วมรัฐบาล เพื่อรักษาเสถียรภาพให้รัฐบาลสามารถคงอยู่ไปจนครบวาระที่เหลือ

ขณะที่ตามหน้าสื่อ เริ่มมีการปล่อย “โผ ครม.” ออกมากันหลายสำนัก เชื่อว่านายกรัฐมนตรี คงต้องรีบตัดสินใจเร็ว ๆ นี้ เพราะคงไม่อยากปล่อยให้การทำงานในกระทรวงสำคัญต่าง ๆ เกิดภาวะสุญญากาศ ท่ามกลางสารพัดปัญหาร้อนระอุที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเสถียรภาพของรัฐบาลเอง, ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา จนนำมาซึ่งการเตรียมชุมนุมใหญ่ขับไล่นายกฯ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้, การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการเจรจา ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจในประเทศอีกหลายเรื่องที่ยังรอการแก้ไขจากรัฐบาล “แพทองธาร”

– ขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เช้านี้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน หลังทางกัมพูชาสั่งปิดด่านชายแดน และสั่งระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซทุกชนิดจากประเทศไทย ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา

 

ประเด็นด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ

– จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมัน และราคาทองคำ อันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย และมีแนวโน้มจะยิ่งบานปลาย หลังจากสหรัฐฯ เข้าไปมีส่วนร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีทางอากาศ เพื่อถล่มเป้าหมายโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญ 3 แห่งในอิหร่านได้สำเร็จ

โดยหลายฝ่ายคาดการณ์การตอบโต้กลับของอิหร่านว่าอาจจะใช้แนวทางปิดช่องแคบ “ฮอร์มุซ” หรือไม่ ซึ่งช่องแคบฮอร์มุซเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งลำเลียงน้ำมันของโลก และหากอิหร่านตัดสินใจปิดช่องแคบดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานตลาดโลกให้ปรับสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ขึ้นไปเห็น 120-130 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ จากปัจจุบันอยู่ในระดับไม่เกิน 80 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ จะมีผลต่อราคาขนส่งสินค้า ค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยให้สูงขึ้นตามมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

– จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ล้วนแต่เป็นปัจจัยกดดันที่สร้างความผันผวนต่อทั้งตลาดเงิน และตลาดทุน ซึ่งล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศมาตรการชั่วคราวเพื่อรองรับความผันผวนในตลาดหุ้นไทย โดยได้ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band ใหม่ ซึ่งยืนยันว่าเป็นการบังคับใช้ชั่วคราวในระหว่างวันที่ 23-27 มิ.ย.นี้เท่านั้น ซึ่ง ตลท.จะติดตามภาวะตลาดทุกวัน หากเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว ก็จะกลับไปใช้เกณฑ์เดิมตามปกติ

– ล้มละลายไปเรียบร้อย..สำหรับ บริษัท จ้อเจียง โฮซอน นิว เอเนอร์จี ออโต้โมบิล (Zhejiang Hozon New Energy Automobile) เจ้าของแบรนด์รถอีวีจีน “Neta” อันเนื่องจากมีหนี้สินค้างจ่ายซัพพลายเออร์ถึง 134 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 9,400 ล้านบาท งานนี้ผลกระทบตามมาถึงบริษัทในไทยที่เป็นผู้นำเข้ารถอีวี แบรนด์ Neta ซึ่งวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เรียกบริษัท เนต้า ออโต จำกัด เข้ามาพบเพื่อให้ชี้แจงข้อมูล และแนวทางรองรับการแก้ปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Neta ในประเทศไทย

– สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดงานการประชุมชี้แจงขั้นตอนการประมูล (Bidder Information Session) และการประมูลรอบสาธิตสำหรับผู้เข้าร่วมประมูล (Mock Auction)

– กลุ่มทิสโก้ แถลงข่าว “TISCO ESU Economic Outlook and Investment Strategy Second Half 2025”

-“พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางธุรกิจ ระหว่าง บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

– บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกในด้านจอแสดงผล, ทีวี, เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จัดงาน “CALRITY CHALLENGE” เบิร์นเพื่อแบ่งปัน พลังเพื่อสังคม

 

ภารกิจคณะรัฐมนตรี (ครม.)

– น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ส่วนช่วงเย็น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ผู้แทนกองทัพเรือ และผู้แทน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าว “DSI สนธิกำลังกองทัพเรือ- ป.ป.ส. ทลายเครือข่ายยานรก ยึดยาไอซ์ 2.3 ตันซุกเรือเตรียมส่งออก ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหากนำไปขายในต่างประเทศกว่า 2,000 ล้านบาท

– นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ประชุมมอบนโยบายการดำเนินงาน ติดตามมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมพบปะลูกค้ายื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ตามมาตรการรัฐของ ธอส.

 

ภารกิจผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.)

– นางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเปิดงานทรานซ์ไพรด์ 2025 หัวข้อเสวนา “กรุงเทพปลอดภัย ไม่เลือกปฏิบัติ ส่งเสริมสุขภาวะ เพื่อคนข้ามเพศ” ของ THAI TGA มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน

– นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่เขตหนองแขม สวน 15 นาที จุดแรก ปากซอยเพชรเกษม 77/2

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 68)