โอเปกพลัสมีมติเพิ่มการผลิตน้ำมันสูงถึง 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. หลังจากสมาชิกทั้ง 8 ประเทศของโอเปกพลัสซึ่งได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต คาซัคสถาน แอลจีเรีย และโอมาน ได้ทำการทบทวนภาวะตลาดและแนวโน้มทั่วโลก ในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ก.ค.)

การเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนส.ค.อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ไว้ และถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค., มิ.ย. และก.ค.ซึ่งโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มในอัตราเท่ากันที่ระดับ 411,000 บาร์เรล/วัน

เว็บไซต์ของกลุ่มโอเปกพลัสระบุว่า “การตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.นั้น พิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและปัจจัยพื้นฐานของตลาดที่ยังคงแข็งแกร่งในปัจจุบัน ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากสต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ สำหรับทิศทางในอนาคตนั้น การเพิ่มกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปอาจจะยุติลงหรืออาจจะดำเนินการในทางตรงกันข้าม โดยจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด”

โอเปกพลัสได้เปลี่ยนแนวทางอย่างชัดเจนในปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการปรับลดกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 5 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นเวลาหลายปี โดยจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนนโยบายเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. เมื่อสมาชิก 8 ประเทศในกลุ่มเริ่มทยอยยกเลิกแผนลดกำลังการผลิตรอบล่าสุดที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน พร้อมกับเร่งเพิ่มกำลังผลิตต่อเนื่องในเดือนพ.ค., มิ.ย. และก.ค.

การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายดังกล่าวยังมีเบื้องหลังจากความไม่พอใจของสมาชิกบางประเทศ โดยเฉพาะกรณีของคาซัคสถาน ที่ผลิตเกินเป้าอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประเทศสมาชิกอื่นซึ่งปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดมองว่าเกิดความไม่สมดุลในกลุ่ม นอกจากนี้ การที่สหรัฐฯ ในฐานะผู้ผลิตน้ำมันคู่แข่งได้เพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้โอเปกพลัสเร่งทวงคืนส่วนแบ่งตลาด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 68)