ทรัมป์ประกาศภาษีศุลกากร 14 ประเทศ มีผล 1 ส.ค. ไทยโดน 36%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศในวันจันทร์ (7 ก.ค.) ว่า ประเทศต่าง ๆ อย่างน้อย 14 ประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โดยจะมีบางประเทศถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น สำหรับประเทศไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.

ปธน.ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียลในวันจันทร์ โดยเขาได้แชร์ภาพจดหมายซึ่งระบุถึงอัตราภาษีนำเข้าใหม่ที่ส่งถึงผู้นำของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย คาซัคสถาน แอฟริกาใต้ ลาว และเมียนมา ต่อมาในวันเดียวกัน เขาได้แชร์ภาพจดหมายอีก 7 ฉบับที่ส่งถึงผู้นำของประเทศไทย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ตูนิเซีย อินโดนีเซีย บังกลาเทศ เซอร์เบีย และกัมพูชา

ทั้งนี้ จดหมายที่ปธน.ทรัมป์โพสต์ระบุว่า สินค้าจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย คาซัคสถาน และตูนิเซีย ที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% ขณะที่สินค้าจากแอฟริกาใต้และบอสเนียจะถูกเก็บภาษีนำเข้า 30% และสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียจะถูกเรียกเก็บภาษี 32%

นอกจากนี้ จดหมายของปธน.ทรัมป์ระบุว่า บังกลาเทศและเซอร์เบียจะถูกเก็บภาษี 35% ขณะที่กัมพูชาและไทยจะถูกเรียกเก็บภาษี 36% ส่วนลาวและเมียนมาจะถูกเก็บภาษี 40%

เนื้อหาในจดหมายดังกล่าวระบุว่า อัตราภาษีใหม่นี้มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับทั้ง 14 ประเทศ ขณะเดียวกันจดหมายที่ปธน.ทรัมป์ลงนามยังระบุเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ “อาจจะ” พิจารณาปรับระดับภาษีใหม่ “โดยขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเรากับประเทศของคุณ”

จดหมายเหล่านี้เป็นจุดหมายชุดแรกที่ถูกส่งให้กับประเทศต่าง ๆ ก่อนวันพุธที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นวันครบกำหนดที่ภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของปธน.ทรัมป์จะถูกปรับเพิ่มขึ้นตามที่เขาประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.

แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษทำเนียบขาวกล่าวว่า จะมีจดหมายส่งออกไปอีกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมกับกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อเลื่อนกำหนดเส้นตายวันพุธที่ 9 ก.ค. ออกไปเป็นวันที่ 1 ส.ค.

สำหรับตารางภาษีใหม่ที่ประกาศ ณ วันที่ 7 ก.ค. เทียบกับอัตราภาษีที่ประกาศ ณ วันที่ 2 เม.ย.มีดังนี้

  • ไทย 36% ไม่เปลี่ยนแปลง
  • ลาว 40% ลดลงจากระดับ 48%
  • เมียนมา 40% ลดลงจากระดับ 44%
  • กัมพูชา 36% ลดลงจากระดับ 49%
  • บังกลาเทศ 35% ลดลงจากระดับ 37%
  • เซอร์เบีย 35% ลดลงจากระดับ 37%
  • อินโดนีเซีย 32% ไม่เปลี่ยนแปลง
  • บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 30% ลดลงจากระดับ 35%
  • แอฟริกาใต้ 30% ไม่เปลี่ยนแปลง
  • ญี่ปุ่น 25% เพิ่มขึ้นจากระดับ 24%
  • คาซัคสถาน 25% เพิ่มขึ้นจากระดับ 27%
  • มาเลเซีย 25% เพิ่มขึ้นจากระดับ 24%
  • เกาหลีใต้ 25% ไม่เปลี่ยนแปลง
  • ตูนิเซีย 25% ลดลงจากระดับ 28%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 68)