
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ… หรือกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากวาระการพิจารณาตามมติ ครม.ด้วยคะแนน 253 ต่อ 67 เสียง หลังฝ่ายค้านใช้เวลาอภิปรายนานกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยเสนอญัตติไม่ให้ถอนร่างฯ แต่ต้องการให้ยกเลิกการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาฯ อย่างเด็ดขาด
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้อภิปรายขอเหตุผลจากตัวแทน ครม.ในการถอนร่างกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีความจริงใจ และจะไม่นำร่างนี้กลับมาเสนออีก จนกว่าจะมีการศึกษาอย่างรอบคอบ หากไม่สามารถรับปากได้ ฝ่ายค้านจะมองว่าเป็นการถอนเพราะกลัวเสียงไม่พอ และรัฐบาลต้องเดินหน้าด้วยเสียงของตนเอง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ฐานะตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ชี้แจงเหตุผลว่า เพราะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทั้ง ครม.ชุดใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง ดังนั้นจึงเป็นความเหมาะสมให้ครม. ที่เป็นชุดใหม่ ได้โอกาสทบทวนเพื่อพิจารณาให้รอบคอบ แม้ว่ารัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงการคลังจะไม่ถูกเปลี่ยนตัว แต่เมื่อกระทรวงอื่นเปลี่ยนรัฐมนตรีที่ดูแล จึงมีสิทธิทบทวนกฎหมายได้เป็นปกติ
ทั้งนี้ กระทรวงคลังทำเรื่องให้ ครม. พิจารณายอมรับว่ามีความไม่เข้าใจจากสังคม ดังนั้นต้องให้เวลาพิจารณาให้รอบคอบ ขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนกฎหมายเป็นสิทธิที่ชอบธรรมของ สส.ที่จะปรับเปลี่ยนให้รัดกุมเหมาะสม แต่ไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่ว่ากฎหมายมีปัญหา ตนยืนยันว่าหลักการและเหตุผล เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับสังคม
“รัฐบาลเจตนาดีต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดการจ้างงาน การลงทุนขนาดใหญ่ และสร้างสถานที่ท่องเที่ยววแบบคนสร้าง ปรับเปลี่ยยนโครงสรางภาคการท่องเที่ยว โดยการขับเคลื่อนเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้เมื่อมีความหลากหลายทางความคิดในสังคม ขณะที่ประเทศไทยมีปัญหารุมเร้าทั้งปัญหาชายแดน เศรษฐกิจระดับโลก สงครามการค้า รัฐบาลต้องการลดปัจจัยความขัดแย้งในสังคม ผ่อนเบาสถานการณ์ให้ดีขึ้น” นายจุลพันธ์ กล่าว
ส่วนที่ตั้งคำถามว่าเมื่อถอนร่างกฎหมายออกไปจะนำกลับเข้ามาอีกหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี แต่กฎหมายลักษณะนี้ใช้กระบวนการนานและหากในสภาฯเห็นต่างจะทำให้ต้องใช้เวลานานเป็นเท่าตัว เมื่อมีเวลาจำกัดต้องดูว่าทำทันหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าเป็นไปได้ยาก
นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติคัดค้านการถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากวาระของสภาฯ โดยยืนยันจุดยืนเดิมคือไม่เห็นด้วย และไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน แต่ที่ต้องการให้พิจารณาต่อเพื่อแสดงจุดยืนให้เห็นว่าการถอนออกไปนั้นไม่เท่ากับการยกเลิก และไม่อยากเห็นนโยบายเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภาต่อไป ดังนั้นจำเป็นต้องเดินหน้าพิจารณาลงมติไม่เห็นด้วยเพื่อถอนรากถอนโคนกฎหมายดังกล่าว
นายภราดร กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ต้องการเห็นนโยบายนี้เดินหน้าอีกต่อไป ซึ่งจะเห็นด้วยในการถอนร่างนี้ก็ได้ หากสามารถยืนยันต่อสภาแห่งนี้ และยืนยันกับประชาชนว่า ในสภาชุดที่ 26 นี้ จะไม่มีการพิจารณาเรื่องกาสิโน เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ในสภาชุดนี้อีก
“ผมไม่ติดใจ ผมยินยอมให้ท่านถอนโดยดี แต่ถ้าผิดไปจากนี้ ผมจำเป็นจะต้องขอมติจากสภาแห่งนี้ และหลังจากนี้ ลงสู่สนามเลือกตั้ง ท่านจะไปหาเสียงเชิญครับ ว่าท่านต้องการกาสิโน เลือกพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการกาสิโนเลือกพรรคนู้นพรรคนี้ แล้วท่านกลับมาได้ กลับมาชนะ ท่านมาเสนออีกครั้ง ผมก็ไม่ว่าอะไร”นายภราดร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 68)