
ผู้พิพากษารัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งห้ามรัฐบาลสหรัฐฯ มิให้บังคับใช้การจำกัดสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิดทั่วประเทศอีกครั้ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โจเซฟ ลาปลองต์ ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ในคอนคอร์ด รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประกาศคำตัดสินดังกล่าวหลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิของผู้อพยพเรียกร้องให้เขาอนุมัติสถานะการฟ้องร้องแบบกลุ่ม (class action) ที่พวกเขายื่นฟ้องเพื่อเป็นตัวแทนของเด็กทารกคนใดก็ตามที่สถานะการเป็นพลเมืองอาจถูกคุกคามจากการบังคับใช้คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สำนักข่าว ABC ระบุว่า คำตัดสินดังกล่าวจากลาปลองต์มีความสำคัญยิ่งเนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้วศาลฎีกาได้จำกัดอำนาจของผู้พิพากษาศาลชั้นต้นในการระงับการใช้กฎหมายทั่วประเทศ แต่ยังคงเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้การฟ้องร้องแบบกลุ่มเพื่อระงับการประกาศใช้คำสั่งของทรัมป์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐนิวแฮมเชียร์
ลาปลองต์ได้อนุมัติคำร้องของทนายความด้านสิทธิการย้ายถิ่นฐานเพื่อรับรองกลุ่มคนจากทั่วประเทศที่ประกอบด้วยผู้ที่ถูกเพิกถอนสัญชาติ และได้ออกคำสั่งเบื้องต้นเพื่อระงับการบังคับใช้คำสั่งของทรัมป์กับทารกที่เกิดแล้วและยังไม่เกิดที่อาจได้รับผลกระทบอย่างไม่มีกำหนด
ลาปลองต์กล่าวระหว่างการพิจารณาคดีว่า “คำสั่งห้ามเบื้องต้นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ศาลต้องลังเล เพราะการพรากสิทธิความเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และการเปลี่ยนนโยบายที่มีมายาวนานอย่างกะทันหันนั้น ถือเป็นความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้” และเขายังกล่าวเสริมว่า “ความเป็นพลเมืองสหรัฐฯ คืออภิสิทธิ์สูงสุดที่มีอยู่ในโลก”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ผู้พิพากษาหลายคนก็มีคำวินิจฉัยว่าคำสั่งของทรัมป์ขัดต่อรัฐธรรมนูญเช่นกัน ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องยื่นอุทธรณ์หลายครั้ง จนคดีนี้ขึ้นสู่ศาลฎีกาในที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)