เทสลา (Tesla) เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model Y ในประเทศอินเดียอย่างเป็นทางการวันนี้ (15 ก.ค.) ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นราคาจำหน่ายที่สูงที่สุดในบรรดาตลาดหลักของบริษัท เนื่องจากอินเดียเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูง
แม้ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา วิพากษ์วิจารณ์อัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ของอินเดียอยู่บ่อยครั้ง และพยายามวิ่งเต้นให้รัฐบาลอินเดียของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ลดภาษีลง แต่ขณะเดียวกัน เขาก็เชื่อว่าเทสลาจะสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในตลาดรถยนต์อินเดีย ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยเทสลาตั้งเป้าแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์หรูจากเยอรมนีอย่างบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) แทนที่จะช่วงชิงยอดขายกับผู้ผลิตรถยนต์เจ้าถิ่นที่ครองตลาดแมส เช่น ทาทา มอเตอร์ส (Tata Motors) และมหินทรา (Mahindra)
ในวันเปิดตัวโชว์รูมที่นครมุมไบ มีการวางกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัย ขณะที่สื่อมวลชนจำนวนมากมารวมตัวกันบริเวณนอกอาคาร โดยมีเดเวนดรา ฟาดนาวิส มุขมนตรีแห่งรัฐมหาราษฏระ เข้าร่วมในพิธีเปิดด้วย
“ในอนาคต เราหวังว่าจะได้เห็นการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลิตเกิดขึ้นในอินเดีย และผมมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เทสลาจะพิจารณาเรื่องนี้” ฟาดนาวิสกล่าว
ทั้งนี้ รถยนต์ที่เทสลานำมาจัดแสดงในโชว์รูมแห่งแรก ณ นครมุมไบนั้นผลิตในประเทศจีน เนื่องจากโรงงานในสหรัฐฯ ยังไม่ได้ผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาที่ใช้ในอินเดีย
สำหรับราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอินเดีย รุ่น Model Y Rear-Wheel Drive เริ่มต้นที่ประมาณ 6 ล้านรูปี (70,000 ดอลลาร์) ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นจะเห็นว่าราคาเริ่มต้นในอินเดียสูงกว่าอย่างชัดเจน โดยในสหรัฐฯ เริ่มต้นที่ 44,990 ดอลลาร์ จีนเริ่มต้นที่ 263,500 หยวน (36,700 ดอลลาร์) และเยอรมนีเริ่มต้นที่ 45,970 ยูโร (53,700 ดอลลาร์)
ส่วนรุ่น Model Y Long-range RWD มีราคา 6.8 ล้านรูปี นอกจากนี้ เทสลายังเสนอระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ Full Self-Driving (FSD) เป็นออปชันเสริมในราคา 600,000 รูปี พร้อมให้คำมั่นว่าจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ในอนาคตเพื่อให้ระบบสามารถทำงานโดยที่ผู้ขับขี่แทบไม่ต้องควบคุม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 68)
