นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ว่า เป็นได้ยาก เพราะมีบางกลุ่มไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ รวมไปถึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำต้องได้รับเสียงสนับสนุน 1 ใน 3 ของจำนวนสว. ดังนั้น เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใดเข้าไปส่วนใหญ่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสว. แม้สส. ทั้งสภาฯ หรือทุกพรรคการเมืองเห็นตรงกันว่าอยากแก้ แต่แก้ไม่ได้เพราะ สว. ไม่เอาด้วย
นายสมคิด กล่าวว่า แม้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยรัฐบาลทหารที่ผ่านมามาตรา 256 สามารถผ่านสภาฯ มาได้แต่สุดท้ายที่ประชุม สว. ก็ไม่เห็นด้วยการแก้ครั้งนั้นก็ทำไม่ได้ มาถึงสมัยนี้ก็ไม่ต่างกันต่อให้ไปทำประชามติประชาชนเห็นด้วยก็ไม่สามารถผ่านด่านสว. ได้อย่างแน่นอน ยิ่งปัญหาที่มาของสว. ไม่ชัดเจน ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นการปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างสิ้นเชิง สุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรก็ไม่ทันรัฐบาลนี้อย่างแน่นอน
“ปัญหาประเทศที่เป็นอยู่ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาประเทศที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นกับดักจากรัฐธรรมนูญ ที่อ้างว่าปราบโกงไม่จริง แต่เป็นรัฐธรรมนูญมีไว้ปราบคนที่ไม่เห็นด้วยมาเป็นรัฐบาล หากจะทำโครงการใดก็ตามหากมีคนไม่เห็นด้วย หรือไม่ชอบรัฐบาลนี้ ไปร้ององค์กรอิสระรัฐบาลก็อาจมีอันเป็นไปได้” นายสมคิด กล่าว
ดังนั้น การแก้รัฐธรรมนูญจึงต้องให้ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งประชาชน นักวิชาการ ฝ่ายความมั่นคง ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต้องเห็นตรงกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ทำให้การเมืองอ่อนแอประเทศก็เดินไปอย่างยากลำบาก สำคัญที่สุดคือรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ไม่ใช่รัฐธรรมนูญปราบโกง แต่เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแช่แข็งประเทศ ทำให้ประเทศมีปัญหาในทุกมิติ หากไม่แก้ปัญหาประเทศก็แก้ไม่ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)
