ความพยายามกวาดล้างการแสดงออกทางการเมืองในฮ่องกงยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด วัยรุ่นอายุ 18 ปีถูกตำรวจจับกุม หลังจากเขียนข้อความที่ถูกระบุว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายปลุกระดมในห้องน้ำของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งถึง 3 ครั้ง
รัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ข้อความดังกล่าวมีเนื้อหายุยงให้เกิดความเกลียดชังและความไม่พอใจต่อรัฐบาล รวมถึงกระตุ้นให้ประชาชนฝ่าฝืนกฎหมาย เหตุการณ์นี้นับเป็นหนึ่งในมาตรการด้านความมั่นคงที่เข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามต่อรัฐจีนในฮ่องกงซึ่งเป็นดินแดนที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ขณะเดียวกันฮ่องกงกำลังพยายามฟื้นภาพลักษณ์ของตนในฐานะศูนย์กลางการเงิน หลังผ่านช่วงมาตรการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวดและการจำกัดเสรีภาพทางการเมือง
กรมความมั่นคงแห่งชาติของตำรวจฮ่องกงตั้งข้อหาวัยรุ่นรายนี้ในฐานะผู้กระทำการด้วยเจตนาปลุกระดม หรือกระทำการใด ๆ ที่มีลักษณะปลุกระดม โดยหากถูกตัดสินว่ามีความผิดในครั้งแรกอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี โดยความผิดตามข้อหาดังกล่าวอยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติหรือมาตรา 23 ซึ่งเพิ่งถูกเร่งผลักดันให้กลายเป็นกฎหมายในปีที่ผ่านมา
กฎหมายมาตรา 23 ถูกนำมาใช้ควบคู่กับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับที่จีนบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมและจำคุกแกนนำนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยจำนวนมาก
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากปฏิบัติการกวาดล้างอื่น ๆ โดยเมื่อต้นเดือนนี้ ตำรวจฮ่องกงได้ควบคุมตัวชาย 4 คนในข้อหาสนับสนุนแนวคิดแบ่งแยกดินแดน นอกจากนี้ ในเดือนมิ.ย. ทางการฮ่องกงได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรกในการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการสมคบคิดกับต่างชาติ และในเดือนเดียวกัน ตำรวจยังสั่งแบนวิดีโอเกมจากไต้หวันที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกร้องให้มีการปฏิวัติด้วยอาวุธ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฮ่องกงยังไม่ได้ออกมาให้คำชี้แจงใด ๆ ต่อกรณีล่าสุดนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)
