
ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน (22 ก.ค.) บาททองคำละ 400 บาท ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก ขณะที่ระหว่างวัน ราคาทองปรับขึ้น-ลง รวม 8 ครั้ง โดยที่ราคาปิดครั้งสุดท้ายเพิ่มขึ้น 50 บาท จากราคาเปิดครั้งแรกในช่วงเช้า
เมื่อเวลา 17.11 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำครั้งที่ 8 ดังนี้
– ทองคำแท่ง รับซื้อบาททองคำละ 52,050 บาท ขายออกบาททองคำละ 52,150 บาท
– ทองรูปพรรณ รับซื้อบาททองคำละ 51,013.40 บาท ขายออกบาททองคำละ 52,950 บาท
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองโลกมีการปรับฐานระยะสั้น จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศปิดดีลข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น พร้อมกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสินค้าญี่ปุ่นที่ 15% จากเดิมที่ 25% และทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ญี่ปุ่นจะลงทุน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ จะได้รับผลกำไร 90%
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวอีกว่า กำลังเจรจาหาข้อสรุปการลงทุนโครงการ LNG ระหว่างสหรัฐ-ญี่ปุ่น ที่รัฐอลาสก้า รวมถึงยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาวว่า ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ได้เชิญทรัมป์ไปเยือนประเทศจีน และทรัมป์อาจจะไปในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทการค้า และความตึงเครียดด้านความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ อย่าง เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) ประกาศกำไรไตรมาสที่ 2/2568 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 2,900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2/2567 และบริษัทยังกล่าวว่าอาจมีแนวโน้มเลวร้ายลงอีกในไตรมาสที่ 3 จากผลกระทบกำแพงภาษีของทรัมป์
ขณะที่ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับลดคาดการณ์การตัวเลข GDP ของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในปีนี้ ลงสู่ระดับ 4.7% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 4.9% จากการที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากร ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)