สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า โดยขณะนี้ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายการเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราสูงในวันที่ 1 ส.ค.
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 69.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 71 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 72.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ประเทศที่ยังไม่ได้เจรจาข้อตกลงการค้าหรือยังไม่ได้รับหนังสือเกี่ยวกับภาษีศุลกากรจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะได้รับการติดต่อจากสหรัฐฯ เกี่ยวกับเงื่อนไขทางการค้าภายในวันที่ 1 ส.ค.ตามเวลาสหรัฐฯ โดยปัจจุบัน สหรัฐฯ ได้ทำข้อตกลงกับประเทศคู่ค้าสำคัญ 18 อันดับแรกไปแล้วถึง 2 ใน 3
ล่าสุด ปธน.ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐฯ จะขยายเวลาในการเจรจาการค้ากับเม็กซิโกออกไปอีก 90 วัน เพื่อปูทางสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ
“เราได้ตกลงที่จะขยายข้อตกลงเดิมออกไปอีก 90 วัน โดยมีเงื่อนไขเหมือนเดิมกับช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเม็กซิโกจะยังคงจ่ายภาษีเฟนทานิล 25%, ภาษีรถยนต์ 25% และภาษีเหล็ก อะลูมิเนียม และทองแดง 50% ต่อไป” ปธน.ทรัมป์กล่าว
นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital กล่าวว่า ข่าวการขยายเวลาเจรจาการค้ากับเม็กซิโกเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเป็นแค่การซื้อเวลาเท่านั้น
ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.7% จากระดับ 2.8% ในเดือนพ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 68)
