นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤติเบื้องต้น 2 เรื่องใหญ่
1. สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งแม้ความระแวงระหว่างกันยังมีอยู่ แต่เชื่อว่าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ในช่วง 4-7 ส.ค.นี้ คงจะเป็นการเริ่มต้นพูดคุยกันและแก้ปัญหาด้วยการเจรจา
ส่วนการปรับแผนการประชาสัมพันธ์การทำงานของรัฐบาล เพื่อลดความผิดพลาดและซ้ำซ้อนของข้อมูลนั้น นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลได้มีการปรับเปลี่ยนแล้ว โดยได้มอบให้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เป็นศูนย์รวมทุกเรื่อง ซึ่ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก.ก็ได้ประสานอย่างใกล้ชิด ทั้งกองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ
2. การเจรจาภาษีสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่วิกฤติของไทยประเทศเดียว แต่เป็นวิกฤติของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งขณะนี้สำหรับประเทศไทยได้ข้อยุติที่สำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินการภาคธุรกิจต่อไป
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาลยังไม่จบแค่นี้ แม้ว่าเราจะผ่านพ้นจุดที่เป็นวิกฤติไปแล้ว นั่นคือได้รับคำตอบที่ชัดเจน และคำตอบนี้ถือว่าประเทศไทยสามารถดำเนินการค้า เปิดตลาดได้กว้างขึ้น
“ที่สำคัญที่สุดในการส่งออก คือ เราสามารถเทียบเคียงกับคู่แข่งได้ ไม่ได้เสียเปรียบ ดูให้ดีได้เปรียบบางประเทศ แม้จะนิดหน่อย ตอนนี้ถือว่าเสมอกันแล้วในภูมิภาคนี้ ที่จะส่งออกไปในตลาดเดียวกัน” นพ.พรหมินทร์ กล่าว
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเข้าไปดูแลการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้แถลงไว้แล้วอย่างชัดเจน นาทีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่จะพาประเทศไปข้างหน้า เมื่อฝ่าวิกฤติตรงนี้ไปได้แล้ว จะต้องเป็นการร่วมใจกันของประชาชน เพื่อพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
ทั้งนี้ เรื่องข้อตกลง และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีกับสหรัฐนั้น เมื่อได้ผ่านที่ประชุม ครม.นัดพิเศษ และมีมติเรื่องกรอบการเจรจา คือ จะมีการเจรจาต่อไปแน่นอน เมื่อถึงขั้นตอนทางกฎหมาย ก็ต้องผ่านรัฐบาล ผ่านสภาฯ โดยจะดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 68)
