
เรียวเซ อาคาซาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจและหัวหน้าคณะผู้เจรจาภาษีศุลกากรของญี่ปุ่น เดินทางถึงสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้วในคืนวันอังคาร (5 ส.ค.) เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐฯ ดำเนินการลดภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ของญี่ปุ่นตามที่ตกลงกันไว้โดยเร็วที่สุด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเดินทางดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่เขาบรรลุข้อตกลงการค้ากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งสหรัฐฯ ให้คำมั่นที่จะลดอัตราภาษีตอบโต้สำหรับสินค้าญี่ปุ่น ลงเหลือ 15% จากเดิมที่ขู่ไว้ว่าจะอยู่ที่ 25% โดยอัตราภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีนี้ (7 ส.ค.)
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังตกลงที่จะลดภาษีรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นลงเหลือ 15% เพื่อแลกกับคำมั่นในการทุ่มเม็ดเงินลงทุนอย่างมหาศาลของญี่ปุ่นในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์เมื่อใด
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จาก 2.5% เป็น 27.5% ในเดือนเม.ย. โดยใช้กรอบกฎหมายที่แตกต่างจากภาษีศุลกากรตอบโต้
อาคาซาวะซึ่งมีกำหนดปฏิบัติภารกิจอยู่ที่กรุงวอชิงตันจนถึงวันศุกร์นี้ กล่าวก่อนออกเดินทางว่า เขาจะพยายามผลักดันให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงทวิภาคีในการเจรจารอบที่ 9 ที่จะถึงนี้กับทีมการค้าของทรัมป์
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน เนื่องจากยังไม่มีการลงนามในเอกสารกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อยืนยันข้อตกลงการค้า
นักวิจารณ์บางคนชี้ว่า อาจมีความเข้าใจผิด เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนในคำอธิบายข้อตกลงระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวว่าสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นที่อยู่ภายใต้ภาษีศุลกากร 15% ขึ้นไปอยู่แล้ว จะไม่ถูกเรียกเก็บเพิ่มอีก 15% แต่คำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์ลงนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อแก้ไขอัตราภาษีศุลกากร กลับไม่ได้ระบุถึงเงื่อนไขดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 68)