ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (11 ส.ค.) ขณะที่การซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เพราะนักลงทุนรอดูข้อมูลเงินเฟ้อที่จะประกาศในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทั้งยังจับตาดูความคืบหน้าด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนด้วย โดยนักลงทุนคาดว่าการปรับเปลี่ยนภายในธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อไม่นานมานี้ ประกอบกับสัญญาณความอ่อนแอของตลาดแรงงาน อาจผลักดันให้เฟดใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในช่วงปลายปีด้วยการปรับลดดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,975.09 จุด ลดลง 200.52 จุด หรือ -0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,373.45 จุด ลดลง 16.00 จุด หรือ -0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,385.40 จุด ลดลง 64.62 จุด หรือ -0.30%
นักลงทุนรอดูรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประกาศในวันนี้ เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย โดยคาดว่าจะเป็นตัวกำหนดความชัดเจนให้กับนักลงทุน เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อเริ่มสะท้อนผลกระทบโดยตรงจากภาษีนำเข้าต่อผู้บริโภค ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 0.60% ภายในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปรายใหญ่ปรับตัวลดลงก่อนถึงเส้นตายการเก็บภาษีนำเข้า และการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าที่กำหนดให้แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายชิปในจีนให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยนักวิเคราะห์มองว่าการเก็บภาษีนี้อาจกระทบต่อกำไรของบริษัทผู้ผลิตชิป และอาจเป็นบรรทัดฐานให้รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีจากการส่งออกสินค้าอื่น ๆ นอกเหนือจากเซมิคอนดักเตอร์
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า บริษัทเหล่านี้ตกลงจะมอบรายได้ 15% จากการขายชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เริ่มออกใบอนุญาตให้ขายชิป H20 ของ Nvidia ไปยังจีน
หุ้นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia ปรับตัวลดลง 0.32% และหุ้น Advanced Micro Devices (AMD) ปรับตัวลดลง 0.28%
ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อขยายเวลาการระงับการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไปอีก 90 วัน โดยทรัมป์ได้กล่าวชื่นชมความร่วมมือของจีนในการเจรจาในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ส.ค. 68)
