ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 483.52 จุด ตัวเลข CPI หนุนคาดเฟดหั่นดบ.เดือนหน้า

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร (12 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,458.61 จุด เพิ่มขึ้น 483.52 จุด หรือ +1.10%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,445.76 จุด เพิ่มขึ้น 72.31 จุด หรือ +1.13% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,681.90 จุด เพิ่มขึ้น 296.50 จุด หรือ +1.39%

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2.7% เช่นกันในเดือนมิ.ย.

หลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนให้น้ำหนัก 98% ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. จากก่อนหน้านี้ที่ให้น้ำหนัก 89%

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งเป็นตัวสะท้อนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนั้น ปรับตัวลดลง หลังจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาการเรียกเก็บภาษีศุลกากรระหว่างกันออกไปจนถึงวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งข่าวดังกล่าวให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสองประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลก

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ต่างปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้น 1.8% ตามด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 1.4%

หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ปรับตัวขึ้น 1.2% หลังจากมีรายงานว่า เพอร์เพล็กซิตี (Perplexity) สตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้าซื้อเบราว์เซอร์ Chrome จากอัลฟาเบทในวงเงิน 3.45 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นอินเทล (Intel) พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาได้พบกับลิป-บู ตัน ซีอีโอของอินเทลเมื่อวันจันทร์ โดยปธน.ทรัมป์ได้กล่าวยกย่องนายตัน และระบุว่าการพบปะกับซีอีโอของอินเทลในครั้งนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการคลี่คลายสถานการณ์ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้นายตันลาออก โดยระบุว่าซีอีโอผู้นี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนโดยอาศัยความสัมพันธ์ที่มีกับบริษัทจีน

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยดัชนี S&P500 Banks Index พุ่งขึ้น 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวที่ชันขึ้น (steepening yield curve) อาจช่วยหนุนผลกำไรของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารสามารถกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำและปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ดัชนีหุ้นสายการบินทะยานขึ้น 8.87% ซึ่งเป็นปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าค่าโดยสารเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น 4% ในเดือนก.ค.

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ส่วนในวันศุกร์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนส.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 68)