
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 4 อนุญาตให้ทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภทได้ ภายใต้เงื่อนไขพื้นที่ห้ามบิน ตั้งแต่วันที่ 16 – 31 สิงหาคม 2568 หลังจากได้ขอความร่วมมืองดบินในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต่าง ๆ
การอนุญาตบินครั้งนี้มีเงื่อนไขสำคัญ คือ
- โดรนทุกประเภทสามารถทำการบินได้ ยกเว้นพื้นที่ที่กำหนดตามประกาศ, จังหวัดชายแดนที่ประกาศกฎอัยการศึก หรือมีกองกำลังปฏิบัติการภาคพื้น (สระแก้ว ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ จันทบุรี สุรินทร์ และอุบลราชธานี) อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี, อำเภอเมือง จ.ระยอง, รัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบินและจุดขึ้นลงอากาศยานทุกแห่ง และพื้นที่ที่หน่วยงานความมั่นคงประกาศเป็นการเฉพาะเพิ่มเติม ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบพื้นที่อนุญาตได้ที่แอปพลิเคชัน UAS Portal
- โดรนทุกประเภทต้องแจ้งข้อมูลพื้นที่ที่ปฏิบัติการบิน วันและเวลา และวัตถุประสงค์การปฏิบัติการบินล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน ก่อนการปฏิบัติการบินทุกครั้ง โดยสามารถแจ้งที่ CAAT ผ่านแอปพลิเคชัน UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th และแจ้งต่อศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศตอ.น.) อีเมล [email protected]
- ทำการบินได้เฉพาะเวลา 06.00-18.00 น. เท่านั้น (งดบินในเวลากลางคืนทุกกรณี)
- ในพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่พื้นที่ห้ามบินตามประกาศสามารถขอปฏิบัติแตกต่างจากเงื่อนไขได้ ตามประกาศกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2558 และ 2567 โดยจะต้องขออนุญาตจาก CAAT ผ่านช่องทาง UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th
พล.อ.อ.มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มคลี่คลายลงในระดับที่สามารถผ่อนคลายมาตรการควบคุมการใช้โดรนของพลเรือนได้บางส่วน โดยยังคงให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของการปฏิบัติการด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน และเพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชนและการประกอบกิจการต่าง ๆ สามารถกลับมาดำเนินได้ใกล้เคียงภาวะปกติ ฝ่ายความมั่นคงจึงประสานให้ปลดล็อกการบินโดรนทุกประเภทภายใต้เงื่อนไข โดย CAAT ขอขอบคุณผู้ใช้งานโดรนทุกท่านที่ปฏิบัติตามคำขอความร่วมมือของหน่วยงานความมั่นคงในช่วงที่ผ่านมา และย้ำว่าพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งาน นำไปพัฒนาระบบการขึ้นทะเบียนและการขออนุญาตบิน เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายโดรน โดยเฉพาะโดรนเพื่อการเกษตรในอนาคตมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ใช้งานโดรนเกษตรทุกรายขึ้นทะเบียนตัวโดรนและผู้บังคับในระบบ UAS Portal ให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านระเบียบกฎหมายในอนาคต
ทั้งนี้ หากพบเห็นการใช้งานโดรนที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรืออาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ ให้แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น ลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็วผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้
- กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 02-568-8851 หรืออีเมล [email protected]
- ศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน)กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศตอ.น.) โทรศัพท์ 02-126-7846 หรืออีเมล [email protected]
- ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)