น้ำมัน WTI ปิดลบ $1.16 นลท.รอผลเจรจาทรัมป์-ปูติน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (15 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอผลการเจรจาระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจากการทำสงครามในยูเครน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.16 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.81% ปิดที่ 62.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1.48% ปิดที่ 65.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.7% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.1%

ทรัมป์เดินทางถึงรัฐอะแลสกาในวันศุกร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับปูติน หลังจากกล่าวว่า เขาต้องการเห็นการหยุดยิงในสงครามยูเครน “ภายในวันนี้” โดยเขาเชื่อว่ารัสเซียพร้อมจะยุติสงคราม แต่ก็ขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย หากการเจรจาสันติภาพไม่มีความคืบหน้า

ปูตินเดินทางถึงเมืองแองเคอเรจแล้วเช่นกัน ขณะที่ ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินระบุว่า รัสเซียคาดหวังว่าการหารือครั้งนี้จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า หากการเจรจาไม่คืบหน้า ทรัมป์อาจขู่เพิ่มแรงกดดันทางภาษีต่ออินเดีย และอาจรวมถึงจีนเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดน้ำมันมีความระมัดระวัง และหากมีการประกาศหยุดยิง จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมันในระยะสั้น

ขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีนเพิ่มความกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยข้อมูลทางการบ่งชี้ว่าการผลิตภาคโรงงานในเดือนก.ค. ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และยอดค้าปลีกเติบโตช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. แม้ว่าปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 8.9% จากปีก่อน แต่ลดลงจากระดับเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2566 และการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนก็สะท้อนถึงความต้องการใช้ในประเทศที่ลดลง

ส่วนปัจจัยกดดันอื่น ๆ นั้นรวมถึงการคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันจะมีอุปทานส่วนเกินเพิ่มขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงนานขึ้น

ข้อมูลจาก Baker Hughes ระบุว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอุปทานในอนาคต เพิ่มขึ้น 1 แท่นในสัปดาห์นี้ มาอยู่ที่ 412 แท่น

นักวิเคราะห์จากแบงก์ออฟอเมริกาปรับเพิ่มคาดการณ์ส่วนเกินน้ำมันในตลาด โดยประเมินว่าจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 890,000 บาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2568 ถึงเดือนมิ.ย. 2569 เนื่องจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มโอเปกพลัสซึ่งรวมถึงประเทศสมาชิกโอเปก รัสเซีย และพันธมิตรอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ในสัปดาห์นี้ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันกำลังล้นตลาด หลังโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตล่าสุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 68)