
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (18 ส.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้เข้าพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางยุติสงครามในยูเครน
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 63.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 66.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาว โดยมีปธน.เซเลนสกีร่วมด้วยว่า เขาคาดหวังว่าการประชุมกับปธน.เซเลนสกีในครั้งนี้จะนำไปสู่การประชุมไตรภาคีร่วมกับปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียในที่สุด พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าปธน.ปูตินต้องการให้สงครามในยูเครนยุติลง
ในการพบปะกันครั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้นำยูเครนให้ล้มเลิกความหวังที่จะได้แค้วนไครเมียที่ถูกรัสเซียผนวกดินแดนไปแล้วกลับคืนมา และล้มเลิกความหวังที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปธน.ทรัมป์มีท่าทีเอนเอียงไปทางรัสเซียมากขึ้นด้วยการสนับสนุนการทำข้อตกลงสันติภาพมากกว่าข้อตกลงหยุดยิง หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้จัดประชุมสุดยอดร่วมกับปธน.ปูตินที่รัฐอะแลสกาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ยูเครนได้ยกระดับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียในวันจันทร์ โดยใช้โดรนโจมตีในภูมิภาคตัมบอฟของรัสเซีย ซึ่งทำให้การจ่ายน้ำมันผ่านท่อส่งต้องหยุดชะงัก โดยข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
ทางด้านปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้าของทำเนียบขาวได้เตือนให้อินเดียยุติการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยระบุว่าการซื้อน้ำมันจากรัสเซียถือเป็นการให้เงินทุนสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ตลาดเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการในวันพุธ (20 ส.ค.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 68)