หุ้นนิสสันร่วงหนัก 6% หลังเบนซ์ประกาศเทขายหุ้น 346 ล้านดอลล์

ราคาหุ้นของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ดิ่งลงอย่างหนักถึง 6% ในการซื้อขายวันนี้ (26 ส.ค.) ภายหลังจากที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสอง ประกาศแผนเทขายหุ้นที่ถืออยู่สัดส่วน 3.8% คิดเป็นมูลค่าราว 346 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญมรสุมรุมเร้า

การดิ่งลงของราคาหุ้นครั้งนี้ตอกย้ำถึงความกังวลของนักลงทุนที่มีต่ออนาคตของนิสสัน ซึ่งกำลังประสบปัญหากำแพงภาษีและยอดขายที่ตกต่ำในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ และจีน จนส่งผลให้บริษัทขาดทุนมหาศาลถึง 535 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสล่าสุด (สิ้นสุดเดือนมิ.ย.)

ขณะเดียวกัน อีวาน เอสปิโนซา ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งซีอีโอเมื่อเดือนเม.ย. ได้ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อกอบกู้สถานการณ์ โดยตั้งเป้าลดกำลังการผลิตทั่วโลกจาก 3.5 ล้านคัน เหลือ 2.5 ล้านคัน และลดจำนวนโรงงานจาก 17 แห่ง เหลือเพียง 10 แห่ง ภายในปีงบการเงิน 2570

รายงานระบุว่า ราคาหุ้นนิสสันปิดตลาดภาคเช้าที่ 341 เยน (2.31 ดอลลาร์สหรัฐ) ร่วงลงประมาณ 6% จากราคาปิดเมื่อวันจันทร์ (25 ส.ค.) ที่ 363 เยน และถือเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ค.

ด้านโฆษกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า การถือหุ้นในนิสสันไม่มีนัยสำคัญทางกลยุทธ์อีกต่อไป และแผนการขายหุ้นครั้งนี้เป็นไปเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความคล่องตัวขึ้น โดยหุ้นดังกล่าวถูกโอนไปเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์กองทุนบำเหน็จบำนาญตั้งแต่ปี 2559

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา เอสปิโนซาได้ออกมายอมรับว่า นิสสันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัว แต่ก็มีความคืบหน้าในการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของบริษัท

ทั้งนี้ เมื่อต้นปี 2564 นิสสันซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ของญี่ปุ่น ก็เคยตัดสินใจขายหุ้น 1.5% ที่เคยถืออยู่ในเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ในขณะนั้นคือ เดมเลอร์ เอจี หรือ Daimler AG) เพื่อนำเงินมาพยุงสถานะทางการเงินของบริษัทเช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)