
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พลทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่าเป็นระเบิดใหม่ ว่า ขณะนี้ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ ซึ่งตนได้พูดคุยกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทน รมว.กลาโหมแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ต่างฝ่ายก็ต่างเก็บหลักฐานไว้ โดยจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ซึ่งกัมพูชาเพิ่งจะยอมรับให้เข้าไปเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะพูดคุยกันในวงประชุมดังกล่าว
ส่วนที่เมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) ฝ่ายกัมพูชาออกมาแถลงแสดงความเสียใจที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด แต่ยังยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่า ไม่ใช่ของใหม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปพิสูจน์กันตามหลักฐาน และข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ มีการตั้งคำถามว่าไทยจะยกระดับมาตรการให้เข้มข้นกว่านี้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ไทยทำได้แค่การประท้วงหรือออกแถลงการณ์ประณามเท่านั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องเข้าใจในกระบวนการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งไทยทำตามกระบวนการทางกฎหมาย ที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก หากผลีผลามไปอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับในปี 2554 ที่ต้องเสียเขาพระวิหารไป และเมื่อไทยทำตามกระบวนการตามกฎหมาย ก็จะได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากนานาชาติ
“เราทำตามกระบวนการทางกฎหมาย จึงต้องให้ความสำคัญและระมัดระวัง เพราะหากผลีผลามไป จะเกิดเช่นเดียวกับกรณีปี 2554 ที่เราเสียเขาพระวิหาร เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวว่าเรามีแต่ประท้วง แต่ทำให้เรายืนอยู่ในจุดที่ได้รับความเห็นใจ และได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ เพราะเราปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง
สำหรับแนวคิดของ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ที่จะให้สร้างรั้วถาวร บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว หากเวที GBC มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการเสนอเรื่องมาให้รัฐบาลพิจารณา แต่ตนเข้าใจผู้บัญชาการทหารสูงสุดว่าต้องการทำให้เกิดความสบายใจในการแก้ไขปัญหา แต่ในความเป็นจริง ถ้าเขตแดนไหนที่ชัดเจนแล้วก็สามารถสร้างได้ แต่ถ้าจุดไหนยังไม่ชัดเจน ก็ต้องเคลียร์กันให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้อีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 68)