ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ กังวลมาตรการภาษีทรัมป์ไม่แน่นอน

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (3 ก.ย.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ดิ่งลงกว่า 200 จุดในวันอังคาร (2 ก.ย.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยว่ามาตรการภาษีส่วนใหญ่ของปธน.ทรัมป์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 42,186.59 จุด ลดลง 123.90 จุด หรือ -0.29%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,395.16 จุด ลดลง 101.39 จุด หรือ -0.40% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,820.98 จุด ลดลง 37.15 จุด หรือ -0.96%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.56% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.34%

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ส.ค.) คณะผู้พิพากษาของศาลอุทธรณ์กลางสหรัฐฯ มีมติ 7 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยว่าภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของปธน.ทรัมป์นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีเพียงสภาคองเกรสเท่านั้นที่มีอำนาจในการกำหนดการจัดเก็บภาษีในวงกว้าง ขณะที่ปธน.ทรัมป์ระบุว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวมีสาเหตุทางการเมือง และเขาจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในเอเชียวันนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2 ขยายตัว 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งดีกว่าการประมาณก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าขยายตัว 0.6% ส่วนเมื่อเทียบรายปี GDP ขยายตัว 0.6% ซึ่งดีกว่าการประมาณการก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าขยายตัว 0.5%

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานว่า GDP ไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.5% และขยายตัวเร็วกว่าไตรมาส 1 ที่โตเพียง 0.2% ส่วนเมื่อเทียบรายปี GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 1.8% แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.6% และดีกว่าไตรมาส 1 ที่ขยายตัวเพียง 1.3%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (5 ก.ย.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือนนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 74,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 68)