ทรัมป์ลงนามคำสั่งทำตามข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารในวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) เพื่อบังคับใช้ข้อตกลงทางการค้าที่รัฐบาลได้ทำไว้กับญี่ปุ่นเมื่อเดือนก.ค. อย่างเป็นทางการ

คำสั่งดังกล่าวซึ่งได้รับการเผยแพร่โดยทำเนียบขาว ระบุว่า สหรัฐฯ จะลดภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นเหลือ 15% จากปัจจุบันที่ 27.5% ตามที่ตกลงกันไว้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ลดลงอาจมีผลบังคับใช้กับรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า เนื่องจากทำเนียบขาวระบุว่า การลดอัตราภาษีจะมีผลภายใน 7 วันหลังจากคำสั่งดังกล่าวได้เผยแพร่ในประกาศของรัฐบาลกลาง

นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังมอบสิทธิพิเศษภายใต้นโยบายภาษีตอบโต้ ดังที่สหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในข้อตกลงทวิภาคีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. โดยสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นที่มีอัตราภาษีศุลกากรเดิมอยู่ที่ 15% ขึ้นไปจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม ขณะที่ภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าอื่น ๆ จะถูกจำกัดไว้ที่ 15%

คำสั่งนี้ได้รับการประกาศออกมาภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่เรียวเซ อากาซาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในฐานะหัวหน้าผู้เจรจาการค้าของญี่ปุ่น เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจารอบที่ 10 กับทีมการค้าของทรัมป์ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ได้รับการลดหย่อนภาษีนำเข้ารถยนต์และการปฏิบัติพิเศษตามข้อตกลง

เพื่อเป็นการตอบแทนคำมั่นสัญญาของญี่ปุ่นที่จะลงทุนอย่างหนักในสหรัฐฯ ในการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ของปธน.ทรัมป์ สินค้าส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จึงถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 15% แทนที่จะเป็น 24-25% ดังที่เคยถูกขู่ไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะทุ่มเม็ดเงินลงทุนในสหรัฐฯ สูงถึง 5.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเดือนก.ค. โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เม็ดเงินดังกล่าวเป็นการลงทุน เงินกู้ และการค้ำประกันเงินกู้จากสถาบันการเงินที่รัฐบาลให้การสนับสนุน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 68)