นายกรัฐมนตรีดอนัลต์ ตุสก์ ของโปแลนด์ได้เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันนี้ (10 ก.ย.) ว่า ฝูงโดรนของรัสเซียจำนวนมากได้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านฟ้าโปแลนด์ และบางลำนั้นมีลักษณะเป็น “ภัยคุกคามโดยตรง”
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวโปแลนด์ (PAP) รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากท่าอากาศยานว่า น่านฟ้าเหนือท่าอากาศยานวอร์ซอโชแปงได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ท่าอากาศยานวอร์ซอได้แจ้งเตือนว่า ผลกระทบจากข้อจำกัดและการปิดน่านฟ้าชั่วคราว อาจส่งผลให้การดำเนินงานหยุดชะงักและเกิดความล่าช้าของเที่ยวบินไปตลอดทั้งวัน จึงขอให้ผู้โดยสารหมั่นตรวจสอบสถานะเที่ยวบินล่าสุดผ่านทางเว็บไซต์ และติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงจากสายการบิน
สื่อท้องถิ่น RMF24 รายงานเพิ่มเติมว่า น่านฟ้าเหนือท่าอากาศยานมอดลินและแชชุฟก็ได้กลับมาเปิดทำการแล้วเช่นกัน คงเหลือเพียงน่านฟ้าเหนือลูบลินที่ยังคงปิดอยู่
กชึชตอฟ โมซูลสกี โฆษกสายการบิน LOT โปลิชแอร์ไลน์ได้แจ้งผ่านเอ็กซ์เมื่อช่วงเช้าว่า จากเหตุการณ์ปิดน่านฟ้าดังกล่าว ทำให้เที่ยวบินบางส่วนของสายการบินจำต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงยังท่าอากาศยานแห่งอื่นในประเทศ
กองบัญชาการปฏิบัติการแห่งกองทัพโปแลนด์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า กองทัพได้ทำการยิงสกัดฝูงโดรนดังกล่าวตกไปหลายลำ ภายหลังจากที่น่านฟ้าของประเทศถูกล่วงละเมิดหลายครั้งในชั่วคืนที่ผ่านมา กองบัญชาการฯ ได้สั่งการให้เดินหน้ามาตรการที่จำเป็นทั้งหมดอย่างเต็มกำลัง ทั้งอากาศยานของโปแลนด์และชาติพันธมิตรต่างขึ้นบินปฏิบัติการ ในขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดินและระบบตรวจการณ์ด้วยเรดาร์ได้ยกระดับสู่ภาวะเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (9 ก.ย.) ทางการโปแลนด์ได้สั่งปิดท่าอากาศยาน 4 แห่ง รวมถึงท่าอากาศยานโชแปงอันเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ โดยอ้างอิงประกาศจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ถึง “กิจกรรมทางทหารที่ไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า อันเกี่ยวเนื่องกับการพิทักษ์ความมั่นคงแห่งรัฐ” ซึ่งการปิดท่าอากาศยานครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลโปแลนด์ตรวจพบ “วัตถุประเภทโดรน” เคลื่อนที่ล้ำแดนเข้ามาจากฝั่งประเทศยูเครน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโปแลนด์ ววาดีสวัฟ โคซิเนียค-คามิสซ์ ได้กล่าวย้ำในวันนี้ว่า กองทัพอากาศได้ใช้อาวุธต่อต้านวัตถุที่เป็นปฏิปักษ์ซึ่งรุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าโปแลนด์แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)
