ครม.เฉพาะกาลเนปาลชุดใหม่ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งหลังเหตุประท้วง

สุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา ในฐานะนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลคนใหม่ของเนปาล ได้เปิดตัวคณะรัฐมนตรีชุดแรกวันนี้ (15 ก.ย.) ท่ามกลางความพยายามฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยของชาติ หลังเหตุประท้วงรุนแรงที่นำโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน จนส่งผลให้รัฐบาลชุดก่อนต้องสิ้นสุดลง โดยภารกิจของเธอคือการตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงเพื่ออนาคตที่ปลอดคอร์รัปชัน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนมี.ค.

ในพิธีซึ่งถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ ประธานาธิบดีราม จันทรา เปาเดล ได้เป็นผู้ประกอบพิธีให้รัฐมนตรีคนสำคัญ 3 คนกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ โดยพิธีจัดขึ้นกลางแจ้งและมีทำเนียบประธานาธิบดีที่เสียหายจากเพลิงไหม้เป็นฉากหลัง ทั้ง 3 คนประกอบด้วย:

  • โอม ปรากาช อารยาล ทนายความที่โดดเด่นด้านการทำคดีต่อต้านคอร์รัปชัน ธรรมาภิบาล และสิทธิมนุษยชน เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมควบตำแหน่งดูแลงานด้านกฎหมาย ยุติธรรม และกิจการรัฐสภา
  • กุลมาน กิซิง อดีตผู้อำนวยการการไฟฟ้าเนปาล ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้ยุติปัญหาไฟดับเรื้อรังของประเทศ ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานในหลายกระทรวงสำคัญ ได้แก่ พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และการพัฒนาเมือง
  • ราเมศวร ขานาล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อแก้ไขปัญหาการว่างงานซึ่งเป็นหนึ่งในชนวนเหตุสำคัญของการประท้วง

สำหรับการประท้วงครั้งนี้มีชนวนเหตุจากการสั่งแบนโซเชียลมีเดีย ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรัง โดยข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า 1 ใน 5 ของเยาวชนเนปาลว่างงาน และ GDP ต่อหัวอยู่ที่เพียง 1,447 ดอลลาร์สหรัฐ เหตุการณ์บานปลายอย่างรวดเร็วจนเกิดการวางเพลิงอาคารรัฐสภา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 72 คน นับเป็นความไม่สงบครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองและการล้มล้างระบอบกษัตริย์ในปี 2551

ทั้งนี้ การแต่งตั้งการ์กี ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความเป็นกลาง เกิดขึ้นหลังการเจรจาอย่างเข้มข้นระหว่างผู้บัญชาการทหารบก พลเอกอโศก ราช สิเดล กับประธานาธิบดีราม จันทรา เปาเดล โดยมีตัวแทนจากกลุ่มเคลื่อนไหวเยาวชน “Gen Z” ร่วมด้วย ซึ่งนักเคลื่อนไหวหลายพันคนได้ใช้แอป Discord เพื่อเสนอชื่อเธอเป็นผู้นำ

การ์กีกล่าวว่าตน “ไม่ได้คาดหวัง” ที่จะรับตำแหน่ง แต่ “ชื่อของฉันมาจากเสียงของประชาชนบนท้องถนน” พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะทำงานตามแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นธรรมาภิบาล ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ และการสิ้นสุดของคอร์รัปชัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 68)