WASH กางงบครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 474.11 ลบ.กำไร 50.92 ลบ.พุ่ง 92.88% ก่อนลุยเข้าตลาดหุ้น

นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บมจ.ลอนดรี้ ยู [WASH] เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2568 (มกราคม – มิถุนายน) บริษัทมีรายได้รวม 474.11 ล้านบาท เติบโต 27.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ 97.40% จากการสร้างโมเดลธุรกิจที่มุ่งขยายสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มสาขาของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีแรกจำนวน 34 สาขา

ขณะกำไรสุทธิทำได้ 50.92 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 92.88% (YoY) จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ ร่วมกับการควบคุมและบริหารค่าใช้จ่ายในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภาพรวมของรายได้และกำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการเพิ่มบริการใหม่ในหลายสาขา อาทิ บริการซักอบพับ เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน และการสื่อสารการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รายได้จากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth: SSSG) เติบโตเพิ่มขึ้น 13.05%

บริษัทวาง Business Model ที่แข็งแกร่ง มุ่งสร้างความแตกต่าง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเน้นขยายสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถควบคุมและบริหารจัดการสาขาให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสะดวกต่อการเพิ่มบริการใหม่ อาทิ ซักอบพับ บริการรับรีด บริการรับจ้างซักอบรีดในปริมาณมากสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) และแผนการให้บริการรับ-ส่งผ้าในอนาคต เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่มีบริการครบวงจร และสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) และยั่งยืนในระยะยาว

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของรวม 469 สาขา จากทั้งหมด 548 สาขา คิดเป็นสัดส่วน 85.58% ครอบคลุม 21 จังหวัดในประเทศไทย อีกทั้ง ในช่วงปี 2565-2567 และ 6 เดือนแรกของปี 2568 ได้ขยายสาขาในรูปแบบที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของเกือบทั้งหมด โดยไม่มีนโยบายเพิ่มแฟรนไชส์รายใหม่ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโต

บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ที่เป็นของบริษัทเอง จำนวน 80 สาขา ภายในปี 2568 และวางแผนเพิ่มอีกอย่างน้อย 160 สาขาในช่วงปี 2569-2570 การเน้นการขยายสาขาที่เป็นของบริษัทฯ เองนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และรองรับการให้บริการแบบครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ต่อเนื่องที่สำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภูมิภาคสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และล่าสุดได้เริ่มขยายสู่ภาคใต้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดสรรงบประมาณปีละ 50 ล้านบาท สำหรับการปรับปรุงและยกระดับสาขาที่มีอยู่เดิมในปี 2569-2570 เพื่อเดินหน้าสร้างการเติบโตตามแผนที่วางไว้

“ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งมาจากการขยายสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของอย่างมีกลยุทธ์ การเพิ่มบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า เช่น บริการซักอบพับ และการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ mai บริษัทฯ เชื่อว่าจะช่วยเสริมศักยภาพทางด้านเงินทุนในการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยยกระดับสาขาเดิมของบริษัทฯ ให้ดีขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ WASH เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว” นายกวิน กล่าว

WASH เตรียมเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 105,882,352 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดย WASH มีแผนจะนำเงินไปใช้ในการลงทุนเพื่อเพิ่มจำนวนสาขาร้านสะดวกซัก WashXpress รองรับการขยายธุรกิจ ลงทุนปรับปรุงและยกระดับ (Upgrade) ร้านสะดวกซักสาขาที่มีอยู่เดิม รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 68)